ประเภทของมาส์กหน้า…แบบธรรมชาติและสำเร็จรูป เลือกแบบไหนดี?

823
ประเภทของมาส์กหน้า (Face Mask)

หนึ่งในวิธีบำรุงผิวหน้าแบบง่ายๆ คือการมาส์กหน้า (Face Mask) ซึ่งมีทั้งแบบธรรมชาติและสำเร็จรูป หลักการของการบำรุงผิวหน้าด้วยการมาส์กหน้าคือนำสารอาหารที่จำเป็นต่อผิวมาเคลือบบนผิวหน้า เพื่อให้สารบำรุงค่อยๆ ซึมลงสู่ผิว โดยสารอาหารนั้นมักอยู่ในรูปแบบเซรั่มหรือสารบำรุง ไปจนถึงสารจากวัตถุดิบธรรมชาติเช่นผลไม้สด ซึ่งจะช่วยบำรุงผิวอย่างเร่งด่วน มักเห็นผลได้ทันทีว่าผิวนุ่มฟูขึ้น ดูผ่องใส แต่งหน้าสวย และถ้ามาส์กหน้าเป็นประจำก็จะเห็นผลดีในระยะยาวด้วย

แต่การมาส์กหน้าแต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกันทั้งรูปแบบและวิธีการใช้งาน ดังนั้นควรศึกษาและเลือกสูตรการมาส์กหน้าที่เหมาะกับผิวหน้าและความต้องการของเราด้วย

ประเภทของมาส์กหน้า

มาส์กหน้าแบบธรรมชาติ

มาส์กหน้าแบบธรรมชาติ

การมาส์กหน้าแบบธรรมชาติ คือการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่มีสรรพคุณในการบำรุงผิวหน้า เช่น น้ำผึ้ง มะนาว มะขาม โดยสูตรคร่าวๆ ในการมาส์กหน้าแบบธรรมชาติที่แนะนำมีดังนี้

  • สูตรมาส์กหน้าด้วยน้ำผึ้ง
    น้ำผึ้งมีสรรพคุณช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น การมาส์กหน้าด้วยน้ำผึ้งจะช่วยฟื้นฟูความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า โดยใช้น้ำผึ้งแท้ 100% มาทาให้ทั่วผิวหน้าแล้วนวด ทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  • สูตรมาส์กหน้าด้วยขมิ้นชัน
    ขมิ้นชันมีวิตามินอีสูง ทำให้หน้ากระจ่างใส และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวด้วย วิธีการคือนำขมิ้นมาล้างให้สะอาด บดละเอียด ผสมน้ำแล้วนำมาพอกใบหน้าประมาณ 10-20 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด
  • สูตรมาส์กหน้าด้วยมะนาว
    มะนาวมีวิตามินซีสูง ช่วยในการบำรุงผิวหน้า ทั้งยังมีสรรพคุณช่วยผลัดเซลล์ผิว แต่น้ำมะนาวเพียวๆ มีฤทธิ์เป็นกรดมากเกินไป จึงควรผสมน้ำผึ้งลงไปด้วยในสัดส่วนมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ นวดและทาทั่วหน้าทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

มาส์กหน้าแบบสำเร็จรูป

มาส์กหน้าแบบสำเร็จรูป คือการนำสารสกัดจากธรรมชาติ สารบำรุงผิวต่างๆ มาทำให้อยู่ในรูปแบบของเซรั่ม ครีม เจล ที่มีความเข้มข้นของสารบำรุงมาก เพื่อใช้ทาบนใบหน้าให้สารอาหารซึมซาบเข้าสู่ผิวในระยะเวลาประมาณ 15-30 นาที หรืออาจมาส์กไว้ข้ามคืนก็ได้ ซึ่งมาส์กหน้าแบบสำเร็จรูปก็มีแบ่งได้อีกหลายแบบ ดังนี้

มาส์กแบบแผ่น (Sheet Mask)

1. มาส์กแบบแผ่น (Sheet Mask)

มาส์กแบบแผ่น ทำจากวัสดุลักษณะแบบแผ่นที่มีสารบำรุงเคลือบอยู่สำหรับการแปะบนใบหน้า เช่น ทิชชู่ สำลี เจล ฟอยล์ ไมโครไฟเบอร์ เมื่อแปะบนใบหน้าแล้วสารบำรุงที่เป็นของเหลวจะซึมเข้าสู่ผิวโดยตรงและไม่สามารถระเหยออกสู่ภายนอก ทั้งการซึมซาบยังเป็นไปอย่างรวดเร็ว การมาส์กแบบแผ่นจึงใช้เวลาไม่นาน เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา เพราะแค่ฉีกซอง แปะลงบนใบหน้าก็มาส์กหน้าได้เลย

นอกจากนี้มาส์กแบบแผ่นมีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องความชุ่มชื้น สามารถมาส์กได้ทุกวัน แต่ต้องระวังว่าไม่ใช่มาส์กที่มีจุดประสงค์เพื่อการลดริ้วรอย ผลัดเซลล์ผิว หรือเพิ่มผิวขาวใส เพราะจะมีส่วนผสมที่ทำให้หน้าแห้ง บาง เมื่อมาส์กทุกวัน ควรเลือกมาส์กที่เน้นสร้างความชุ่มชื้นให้ผิวเท่านั้น

นอจากนี้มาสก์แบบแผ่นยังสามารถแบ่งย่อยได้อีก 2 ประเภท ดังนี้

  1. มาสก์ที่ใช้ทั่วใบหน้า ซึ่งสามารถแบ่งออกได้อีก 2 แบบคือ มาส์กแผ่นเดียวใช้ทั้งใบหน้า กับมาสก์ที่แยกเป็น 2 ส่วน คือส่วนบนและส่วนล่างของใบหน้า มีจุดประสงค์เพื่อให้แผ่นมาส์กแนบสนิทกับใบหน้าได้มากกว่า มาส์กที่ใช้ทั่วใบหน้าจะมีรูเว้นช่วงตา จมูกและปาก
  2. มาส์กที่ใช้เฉพาะจุดบนใบหน้า เป็นมาส์กที่ใช้บำรุงบางส่วนโดยเฉพาะ เช่น แผ่นมาส์กรอบดวงตา แผ่นมาส์กรอบคาง เป็นต้น
วิธีการใช้:
  • ฉีกซอง ใช้มือหรือที่คีบคีบแผ่นมาส์ก คลี่ออกแล้วแปะลงบนใบหน้าได้เลย ทิ้งไว้เพียง 15-20 นาที หรือแผ่นมาส์กบางยี่ห้ออาจใช้เวลา 30 นาที ควรอ่านวิธีการใช้บนซองให้ละเอียด
  • ไม่ควรทิ้งมาส์กไว้เกินเวลาเพราะจะทำให้แผ่นมาส์กดูดความชุ่มชื้นออกจากผิวหน้า ทำให้หน้าแห้งได้
  • เมื่อเสร็จแล้วนำแผ่นมาส์กออก ไม่จำเป็นต้องล้าง สามารถทาครีมบำรุงอื่นๆ หรือแต่งหน้าต่อได้เลย
มาสก์โคลน (Clay Mask)

2. มาสก์โคลน (Clay Mask)

มาส์กโคลน มีลักษณะเป็นเนื้อครีมคล้ายโคลน ซึ่งสีของมาส์กไม่จำเป็นต้องสีเหมือนโคลนเท่านั้น เพราะมีตั้งแต่สีดำ เทา เขียว ชมพู มาส์กโคลนเหมาะสำหรับคนที่เป็นสิว เพราะมีคุณสมบัติช่วยลดความมันส่วนเกิน ลดการอักเสบและทำให้สิวแห้งเร็ว หลังจากมาส์กจึงรู้สึกได้ว่าหน้าแห้งตึง กระชับ ดังนั้นไม่ควรมาส์กทุกวันเพราะจะทำให้ผิวแห้งเกินไป

วิธีการใช้:
  • ทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที
  • ระหว่างมาส์กพยายามอย่าขยับใบหน้าไม่งั้นอาจทำให้เกิดรอยได้
  • เสร็จแล้วล้างออกให้สะอาด
  • ควรมาส์กเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
มาส์กแบบล้างออก (Wash Off Mask)

3. มาส์กแบบล้างออก (Wash Off Mask)

มาส์กแบบล้างออก มีเนื้อหลายลักษณะ ทั้งแบบเจล ครีม มูส หาซื้อได้ง่ายทั้งแบบกระปุก แบบซอง แบบหลอด มีความแตกต่างจากมาส์กโคลนตรงที่เมื่อมาสก์จนครบเวลาแล้วจะไม่แห้งแข็ง คุณสมบัติของมาส์กแบบล้างออกมีหลายแบบ ทั้งผลัดเซลล์ผิว ลดริ้วรอย ลดรอยดำ เพิ่มความกระจ่างใส ไปจนถึงเพิ่มความชุ่มชื้น

วิธีการใช้:
  • ทาเนื้อมาส์กลงบนใบหน้า โดยทิ้งไว้ตามระยะเวลาที่ฉลากผลิตภัณฑ์ระบุไว้ เนื่องจากแต่ละตัวใช้เวลาไม่เหมือนกัน
  • ถ้าเป็นสูตรเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น สามารถใช้มาส์กหลังจากมาส์กโคลนที่ทำให้หน้าแห้งได้ เป็นการคืนสมดุลความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างหนึ่ง
มาส์กแบบลอกออก (Peel Off Mask)

4. มาส์กแบบลอกออก (Peel Off Mask)

มาส์กแบบลอกออกจะเน้นเรื่องการขจัดสิวเสี้ยน มีลักษณะเป็นเนื้อครีมที่มีความเหนียวหนึบ ทาบนใบหน้าทั่วทั้งหน้า หรือจะเฉพาะจุดที่มีสิวเสี้ยน เช่น จมูก คาง ก็ได้ โดยเมื่อมาส์กแห้งให้ดึงลอกออกโดยไม่ดึงย้อนรูขุมขน ซึ่งสิวเสี้ยน สิ่งสกปรกอุดตัน ขนอ่อน และเซลล์ผิวที่ตายแล้วมักจะหลุดติดมากับเนื้อมาส์กด้วย

วิธีการใช้:
  • ถ้าต้องการทาให้ทั่วใบหน้า ควรทาให้ทั่วใบหน้าโดยเว้นช่วงรอบดวงตา คิ้ว และริมฝีปาก แล้วเกลี่ยให้เรียบเนียน ทิ้งไว้ตามเวลาที่ฉลากผลิตภัณฑ์ระบุไว้ จากนั้นลอกออกแบบไม่ย้อนรูขุมขน
  • การมาส์กแบบลอกออกไม่ควรใช้บ่อย ควรใช้เพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือถ้าต้องการกำจัดแค่สิวเสี้ยนก็สามารถมาส์กเฉพาะส่วนได้ เช่น บริเวณจมูก
. มาส์กแบบข้ามคืน (Overnight Mask/Sleeping Mask)

5. มาส์กแบบข้ามคืน (Overnight Mask/Sleeping Mask)

มาส์กแบบข้ามคืนไม่ต้องล้างออกชนิดนี้รู้จักกันดีในชื่อ สลีปปิ้งมาส์ก (Sleeping Mask) มีทั้งแบบเนื้อครีมและเนื้อเจล จุดเด่นคือมาส์กไว้ข้ามคืนได้ มีทั้งสูตรที่มาส์กได้ทุกวัน คือสูตรที่เน้นเพิ่มความชุ่มชื้น อ่อนโยนต่อผิว กับสูตรที่ได้รับการพัฒนาจากเดิมจึงมีส่วนผสมของสารที่ช่วยปรับผิวกระจ่างใส หรือลบเลือนริ้วรอย จึงควรใช้แค่ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์

วิธีการใช้:
  • หลังจากทาสกินแคร์ครบทุกขั้นตอนแล้ว ให้ทาสลีปปิ้งมาส์กทั่วใบหน้าทับเป็นขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งจะช่วยล็อกสารบำรุงในสกินแคร์ไม่ให้ระเหยออก ซึมเข้าสู่ผิวโดยตรง
  • เมื่อตื่นเช้ามาต้องล้างหน้าให้สะอาดหมดจด ไม่อย่างนั้นอาจมีเนื้อมาส์กอุดตันได้เพราะมีความเข้มข้นสูง

รู้จักมาส์กหน้าครบทุกรูปแบบแล้ว ทีนี้ก็อาจเกิดคำถามขึ้นมาว่าแล้วเราจะเลือกมาส์กหน้าแบบไหนดี? เพราะแต่ละแบบมีประโยชน์และคุณสมบัติที่น่าสนใจแตกต่างกัน แต่ถ้าแบ่งตามจุดประสงค์ในการใช้จะมี 2 แบบ คือลอกสิวเสี้ยน กับบำรุงผิวหน้า ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการของผิวและตามความชอบ เช่น ชอบความสะดวกสบายก็เลือกมาส์กแบบแผ่น และยังสามารถใช้มาส์กแต่ละแบบร่วมกันได้ เช่น มาส์กโคลนหรือมาส์กลอกสิวเสี้ยนที่มีผลทำให้หน้าแห้งลงแล้วก็สามารถมาส์กเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นตามไปก็ได้