หลุมสิว…ทำอย่างไรดี? ประเภทและวิธีรักษารอยแผลเป็นหลุมสิว

474
หลุมสิวและรอยแผลเป็นจากสิว

แค่รักษาสิวก็กลุ้มพอแล้ว แล้วยังจะเจอปัญหาหลุมสิวตามมาด้วยอีก หลายคนอาจจะหนักใจกับปัญหาเหล่านี้ มิหนำซ้ำบางคนก็อาจโดนล้อว่าหน้าเหมือนดวงจันทร์ ในความหมายที่ว่าหน้าเป็นหลุมเป็นบ่อ ไม่ใช่หน้าสว่างกระจ่างใสแบบดวงจันทร์ ก็ยิ่งทำให้กลุ้มใจกันไปใหญ่ ซึ่งปัญหาหลุมสิวและและรอยแผลเป็นจากสิวนั้นสามารถรักษาให้ดูเรียบเนียนขึ้นได้ แต่อาจต้องใช้เวลาสักหน่อย

สาเหตุของหลุมสิว

ก่อนจะเกิดหลุมสิวได้ ก็แปลว่าต้องมีสิวมาก่อน ซึ่งไม่ใช่สิวทุกเม็ดจะทำให้เกิดหลุมสิว แต่เป็นสิวที่เกิดการอักเสบและไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ก็จะเกิดโพรงหนองลึกลงไปยังผิวชั้นใน เมื่อผิวเกิดกระบวนการรักษาตัวเอง ก็จะสร้างพังผืดขึ้นและดึงรั้งผิวให้ยุบลงไป จึงเกิดเป็นหลุมสิวนั่นเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง …
ประเภทของหลุมสิว

ประเภทของหลุมสิว

1. Rolling Scar (หลุมแอ่งกระทะ) – ระดับทั่วไป

หลุมสิวประเภทนี้ เป็นหลุมสิวแบบตื้น หลุมมีความลึกเพียงส่วนบนของผิว ถ้าดึงผิวให้ตึงก็จะไม่เห็นหลุมสิว ซึ่งหลุมสิวประเภทนี้สามารถรักษาง่ายที่สุด

2. Box Scar (หลุมกล่อง) – ระดับปานกลาง

หลุมสิวประเภทนี้มีความกว้างประมาณ 3-5 มิลลิเมตร ขอบสิวชัด มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม หลุมอาจตื้นหรือลึกไปถึงชั้นหนังแท้ ฐานของหลุมแข็งตึงเพราะพังผืด เมื่อดึงผิวให้ตึงยังเห็นรอยสิวอยู่ จึงรักษายากกว่าหลุมสิวแบบ Rolling Scar

3. Icepick Scar (หลุมจิก) – ระดับรุนแรงที่สุด

หลุมสิวประเภทนี้มีความรุนแรงและรักษายากที่สุด ปากหลุมจะแคบไม่เกิน 0.5 มิลลิเมตร ขอบชัด อาจยกนูนเล็กน้อย แต่หลุมลึกถึงชั้นหนังแท้และอาจลึกไปยังชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้ใช้ระยะเวลานานที่สุดในการรักษา

วิธีการรักษาหลุมสิว

1. การใช้ว่านหางจระเข้

ว่านหางจระเข้มีสารอะลอคตินเอ (Aloctin A) ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นและป้องกันการอักเสบได้ด้วย วิธีใช้คือให้ปอกเปลือกว่านหางจระเข้ ล้างให้สะอาด นำมาพอกหน้าประมาณ 5-10 นาที ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

2. การใช้มะละกอสุก

มะละกอมีเอนไซม์ที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว และมีสรรพคุณสมานแผล วิธีใช้คือให้นำมาบดให้ละเอียดแล้วพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที

3. การใช้กรดผลไม้ หรือ AHA

กรดผลไม้มักสกัดมาจาก มะนาว ส้ม มะขาม เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ จึงมีความปลอดภัย และช่วยในการกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เพื่อผลัดเซลล์ผิวใหม่และทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น แต่ถ้าผิวหน้าแห้งหรือแพ้ง่ายควรหลีกเลี่ยงเพราะจะทำให้ผิวหน้าแห้งขึ้นและระคายเคืองได้

บทความที่เกี่ยวข้อง …

4. การใช้กรดซาลิไซลิก (Salicylic)

กรดซาลิไซลิกจะช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว และการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น วิธีใช้ให้นำกรดซาลิไซลิกแต้มเฉพาะจุด เป็นวิธีที่ค่อนข้างได้ผลลัพธ์ดี

5. การฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์เป็นการฉีดสารเติมเต็มอย่างไฮยาลูรอนิก เอซิด (Hyaluronic Acid) ทำให้ผิวอิ่มขึ้น หลุมสิวตื้น เรียบเนียน แต่ไม่คงทนถาวร ต้องมาฉีดซ้ำทุก 6 – 12 เดือน

บทความที่เกี่ยวข้อง …

6. การทำเลเซอร์

การเลเซอร์จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น หลุมสิวตื้นขึ้น การรักษาจะค่อนข้างเจ็บ แต่เห็นผลลัพธ์ค่อนข้างดี และอยู่ได้ถาวร

7. การใช้คลื่นวิทยุ (Radiofrequency – RF)

วิธีนี้เป็นการส่งคลื่นวิทยุไปยังชั้นผิวจนเกิดความร้อน และกระตุ้นให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหน้ากระชับและได้รับการฟื้นฟู หลุมสิวตื้นขึ้น เป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยมไม่แพ้เลเซอร์

บทความที่เกี่ยวข้อง …

การรักษาหลุมสิวในเบื้องต้นสามารถใช้ครีมทาลดหลุมสิวรวมถึงวิธีทางธรรมชาติต่างๆ แต่ถ้าหลุมสิวลึก การรักษาด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์จะได้ผลกว่า อย่างไรก็ตาม ควรรักษาความสะอาดของผิวหน้า และหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวจนกลายเป็นหลุมสิวจะดีที่สุด