ผมแห้งเสียมาก…ทำอย่างไรดี? สาเหตุและวิธีการแก้ผมเสีย แตกปลาย

738
ผมแห้งเสียมาก

ผมแห้งเสีย ชี้ฟู แห้งกรอบ ทำให้จัดแต่งทรงได้ยาก อีกทั้งยังขาดหลุดร่วง และผมแตกปลายยังทำให้ดูเป็นคนที่ไม่ดูแลตัวเอง หรือสุขภาพไม่ดี ส่งผลให้เจ้าของผมเสียบุคลิก ไม่มั่นใจในตนเอง ดังนั้นควรหาสาเหตุที่ทำให้ผมแห้งเสียและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยด่วน จากนั้นจึงค่อยแก้ผมเสียให้กลับมามีน้ำหนัก นุ่มสลวยดังเดิม

สาเหตุของปัญหาผมแห้งเสีย

1. ทำผมด้วยสารเคมี

การยืด ดัด ทำสี ทำให้พันธะเคมีภายในเส้นผมเปลี่ยนแปลง โปรตีนในเส้นผมถูกทำลาย ทำให้ผมอ่อนแอ และถ้าทำมากๆ จนเกล็ดผมเปิดออก ก็จะทำให้ผมชี้ฟู แห้งเสีย

2. ทำผมด้วยความร้อน

การเป่าไดร์ การหนีบผม เป็นการใช้ความร้อนสูง ทำให้เส้นผมขาดความชุ่มชื้น เกิดความแห้งกรอบ และผมขาดหลุดร่วงได้ง่าย

3. การต่อผม

การต่อผมจะทำให้เส้นผมจริงถูกถ่วงด้วยน้ำหนักของผมที่ต่ออยู่ตลอดเวลา ทำให้รากผมอ่อนแอ ลดความแข็งแรง จนเกิดอาการผมร่วงและผมบางลงได้

4. สระผมบ่อยเกินไป

หลายคนสระผมบ่อย สระผมทุกวันเพราะรักความสะอาด หรือเพราะเข้าใจว่าจะทำให้ผมนุ่มลื่น แต่การสระผมบ่อยๆ เป็นการทำลายน้ำมันในเส้นผม ทำให้ผมแห้งเสียได้ง่ายขึ้น

5. สระผมด้วยน้ำอุ่น

ไม่ใช่การสระผมบ่อยเกินไปเท่านั้นที่ทำให้ผมเสีย แต่การสระผมด้วยน้ำอุ่นก็ทำให้ผมแห้งเสียได้เช่นกัน เพราะความร้อนจะทำให้ผมแห้ง ขาดความชุ่มชื้น และยังเกิดรังแคได้อีกด้วย

6. แสงแดด

การโดนแดดที่แรงและบ่อย ทำให้ผมเสียได้เช่นกัน เพราะความร้อนจากแดดเป็นตัวการอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมเสีย และรังสีอัลตราไวโอเลตก็ทำให้เคราตินที่เป็นโครงสร้างของเส้นผมถูกทำลาย ทำให้ผมแห้งด้วย

7. ความเครียด

ความเครียดส่งผลต่อระบบฮอร์โมนในร่างกาย และฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงก็ส่งผลต่อความแข็งแรงของเส้นผม จึงทำให้เกิดโอกาสผมแห้งเสียได้มากขึ้น.

บทความแนะนำ…

วิธีการแก้ผมแห้งเสีย แตกปลาย

1. สระผมเพียงสัปดาห์ละ 3 – 4 ครั้ง

อย่างที่ทราบแล้วว่าการสระผมบ่อยเป็นการทำลายน้ำมันในเส้นผม ดังนั้นควรสระผมเพียงสัปดาห์ละ 3 – 4 ครั้งก็เพียงพอ และใช้ครีมนวดบำรุงเส้นผมทุกครั้ง

2. ใช้ทรีทเมนต์บำรุงผมสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

ทรีทเมนต์จะช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง และกักเก็บน้ำได้ดี ทำให้ผมเกิดความชุ่มชื้น ลดผมแห้งเสีย ยิ่งถ้าเป็นผมที่ผ่านการยืด ดัด ทำสี ทำทรีทเมนต์สัปดาห์ละ 2 ครั้งก็จะยิ่งดีต่อสุขภาพผม

3. หวีผมให้ถูกวิธี

วิธีคือใช้หวีหวีจากโคนไปยังปลายผม เพื่อกระจายน้ำมันจากหนังศีรษะไปสู่ปลายผม ทำให้ผมได้รับความชุ่มชื้นเพียงพอนั่นเอง

4. หลีกเลี่ยงการทำผมด้วยสารเคมีและความร้อน

ไม่ว่าจะการเป่าไดร์ การหนีบผม การยืด ดัด ทำสี ก็ทำให้ผมชี้ฟูแห้งเสีย ดังนั้นควรงดการทำผมไปจนกว่าผมจะกลับมาสุขภาพแข็งแรงดังเดิม

5. หมักผมด้วยน้ำมันมะพร้าว

ใช้น้ำมันมะพร้าวปริมาณครึ่งช้อนโต๊ะ ชโลมตั้งแต่หนังศีรษะจนถึงปลายผม ใช้หวีซี่ห่างหวีแล้วคลุมผมด้วยหมวกอาบน้ำหรือผ้าขนหนู หมักประมาณ 30 – 40 นาที เมื่อเสร็จแล้วให้สระผมตามปกติ ก็จะทำให้ผมเสียมีสุขภาพดีขึ้น

6. หมักผมด้วยน้ำขิง เจลว่านหางจระเข้ และน้ำมันมะพร้าว

นำน้ำขิงที่ได้จากขิงคั้นสดผสมเจลว่านหางจระเข้ และน้ำมันมะพร้าว นำมาชโลมทั่วศีรษะและคลุมด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำร้อนบิดหมาด ประมาณ 20 – 30 นาที แล้วสระผมตามปกติ ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง จะช่วยให้ผมแข็งแรง เพิ่มความชุ่มชื้น และกระตุ้นระบบหมุนเวียนโลหิตทำให้มีการสร้างเส้นผมมากขึ้น ใครที่ผมแห้งเสียขาดหลุดร่วงจนผมบาง ก็จะมีผมที่หนาขึ้น

7. หมักผมด้วยน้ำมันมะกอก

ใช้น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะหมักผมประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด ก็จะทำให้ผมมีความชุ่มชื้น นุ่มสลวยมากขึ้น

ใครที่ทำผมจนผมแห้งเสีย หรือไม่ได้ดูแลอย่างถูกวิธี ถ้าปรับพฤติกรรมและบำรุงเส้นผมด้วยวิธีดังกล่าวข้างต้น ก็จะได้เส้นผมที่มีสุขภาพดี และแข็งแรงเงางามกลับมา เพราะเส้นผมก็ไม่ต่างจากอวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกายที่ต้องได้รับการดูแล ถึงจะมีสภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง มีน้ำหนัก และมีความนุ่มสลวย เงางาม