ปัจจุบันได้มีการคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ขึ้นมามากมายเพื่อการเสริมความงามอย่างมีประสิทธิภาพและไม่จำเป็นต้องผ่าตัด หนึ่งในนั้นคือการพัฒนาและปรับปรุงเทคโนโลยีอัลตร้าซาวด์ (Ultrasound) จนสามารถนำมาใช้ยกกระชับผิว และแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ บนใบหน้าได้ ซึ่งมีชื่อเรียกว่าเทคโนโลยี Ulthera
Ulthera คืออะไร?
Ulthera หรือ Ultherapy คือ การส่งพลังงานคลื่นเสียงที่มีความถี่สูงในรูปแบบคลื่นอัลตร้าซาวด์แบบเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ไปยังเนื้อเยื่อชั้น SMAS (Superfical Muscular Aponeurotic System) ใต้ชั้นไขมันใต้ผิวหนังซึ่งเป็นชั้นเดียวกับชั้นที่ผ่าตัดศัลยกรรมยกกระชับหน้า
คลื่นเสียงจะถูกส่งลงไปเป็นจุดเล็กๆ สม่ำเสมอทำให้เกิดความร้อนเฉพาะจุด ทิ้งระยะห่างประมาณ 1-1.5 มิลลิเมตร เพื่อกระตุ้นเซลล์ไฟโบรลาสต์ (Fibroblast) ให้มีการหดตัวเหมือนกับการผ่าตัดเพื่อเย็บดึงหน้า ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยในการยกกระชับผิวและลดริ้วรอย มีส่วนในการทำให้โครงหน้าดูเรียวเล็กลง ระหว่างการทำ Ulthera แพทย์จะมองเห็นสภาพผิวหนังผ่านหน้าจอของเครื่อง จึงสามารถปรับคลื่นเสียงให้เหมาะสมกับสภาพผิว ทำให้มีความแม่นยำในการรักษามากกว่าเทคโนโลยีอื่นๆ
ทั้งนี้การรักษาด้วย Ulthera แตกต่างกับการฉีด Botox ตรงที่ Ulthera เหมาะกับคนที่ใบหน้าดูใหญ่เพราะผิวไม่กระชับ เช่น แก้มหย่อนคล้อย ขณะที่การฉีด Botox จะเป็นการทำให้กล้ามเนื้อกรามดูเล็กลง จึงเหมาะสำหรับคนที่ใบหน้าใหญ่เพราะกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ไม่ใช่ผิวหย่อนคล้อย
Ulthera รักษาอะไรได้บ้าง?
Ulthera เป็นการรักษาที่มีหลักการเดียวกันกับการผ่าตัดดึงหน้า เพราะทำให้เนื้อเยื่อหดตัวลงเหมือนการเย็บเนื้อเยื่อ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวกระชับขึ้น ใบหน้าเรียว ดูเรียบเนียน สามารถลดเหนียง คางสองชั้น ริ้วรอย และลำคอเหี่ยวย่น โดยมีข้อดีคือไม่มีรอยแผลผ่าตัดนั่นเอง นอกจากนี้ยังช่วยแก้ไขปัญหาความบกพร่องบนใบหน้า เช่น คิ้วตก หนังตาตก ใบหน้าไม่เท่ากัน รวมถึงลดถุงใต้ตาได้อีกด้วย
การดูแลหลังทำ Ulthera
การยกกระชับหน้าด้วยวิธีนี้ส่งผลหลังการทำน้อยกว่าเทคโนโลยีอื่นๆ ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาพักฟื้น สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ เพียงแต่ไม่ควรสัมผัสผิวหน้าแรงๆ และควรทาครีมกันแดดและหลีกเลี่ยงการโดนแดดแรง ทั้งนี้หลังทำ 1 สัปดาห์สามารถทำเลเซอร์หรือทรีทเมนต์อื่นๆ ต่อได้เลย
ข้อควรรู้เกี่ยวกับ Ulthera
1. ความรู้สึกระหว่างทำ
มีความรู้สึกคล้ายกับการทำเลเซอร์คือเหมือนมีหนามเล็กๆ แทงอยู่บนผิว หรือรู้สึกอุ่นบริเวณใต้ผิวหนัง แต่มักใช้ยาชาก่อนการรักษา ทำให้อาการเจ็บลดน้อยลงหรือแทบไม่รู้สึกเจ็บเลย
2. ผลลัพธ์
การรักษาแบบ Ulthera คงทนกว่าเทคโนโลยีอื่นๆ หลายประเภท เพราะอยู่ได้นานราว 1-2 ปี ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
3. ผลข้างเคียง
หลังจากการทำอาจมีรอยแดงเกิดขึ้นแต่จะจางหายไปภายในประมาณ 1 ชั่วโมง แต่บางรายอาจพบรอยบวมหรือเขียว ให้ใช้วิธีประคบเย็น และนอนหมอนสูงจะช่วยบรรเทาอาการได้ แต่โดยปกติจะหายได้ภายในประมาณ 1 สัปดาห์
Ulthera หรือ Ultherapy เป็นเทคโนโลยีที่ดีสำหรับสาวๆ ที่ไม่ชอบหรือไม่อยากผ่าตัดศัลยกรรม เพราะสามารถสวยได้โดยไม่มีรอยแผลผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ สามารถไปทำงาน ทำกิจกรรมต่างๆ แต่งหน้าได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามควรปรึกษาและเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเชื่อถือได้ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายจากการใช้เครื่องมือแบบไม่ถูกต้อง
 คือการส่งพลังงานคลื่นเสียง Focused Ultrasound ไปยังเนื้อเยื่อชั้น SMAS เพื่อกระตุ้นให้มีการหดตัวเหมือนกับการผ่าตัดเย็บดึงหน้า){kind=link}