เคล็ดลับการว่ายน้ำลดน้ำหนัก ลดความอ้วน…ว่ายน้ำอย่างไรให้ผอม?

877
การว่ายน้ำลดน้ำหนัก

การว่ายน้ำช่วยในการลดความอ้วนและทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ทั้งยังเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะกับคนที่มีน้ำหนักมาก เพราะช่วยลดแรงกระแทกจากการออกกำลังกายที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาข้อเข่าตามมาภายหลัง ไปดูกันดีกว่าว่าเคล็ดลับการว่ายน้ำลดน้ำหนัก และข้อควรวังมีอะไรบ้าง

ว่ายน้ำอย่างไรให้ผอม?

การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาข้อเท้าและข้อเข่า เพราะมีน้ำช่วยในการลอยตัว ขณะเดียวกันก็ทำให้ร่างกายได้ออกแรงกล้ามเนื้อมากขึ้น เพราะในน้ำมีแรงต้านทานมาก ยิ่งน้ำลึกก็ยิ่งมีแรงต้านมากขึ้น การว่ายน้ำจึงช่วยให้ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น ถือเป็นการออกกำลังกายที่ได้ทั้งคาร์ดิโอที่เผาผลาญไขมัน และเวทเทรนนิ่งที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อไปในคราวเดียว ทั้งนี้การว่ายน้ำให้ได้ผลดีควรหยุดพักเมื่อครบ 20 นาที ระหว่างพักให้เกาะขอบสระตีขาเร็วๆ 20 ครั้ง 3 เซ็ต จากนั้นจึงว่ายต่อ ทำอย่างนี้ไปจนครบ 1 ชั่วโมง

เคล็ดลับการว่ายน้ำลดน้ำหนัก ลดความอ้วน

1. ว่ายอย่างต่อเนื่อง

การว่ายน้ำทำให้ร่างกายเหนื่อยช้ากว่าแบบอื่นๆ ดังนั้นควรว่ายอย่างต่อเนื่อง ถ้าเริ่มเหนื่อยให้หยุดพักสั้นๆ 10 วินาทีแล้วค่อยว่ายต่อ จนกว่าจะถึงเวลาพักจริงๆ เมื่อครบ 20 นาที

2. ว่ายช้าสลับเร็ว

การว่ายน้ำเร็วๆ จะทำให้ร่างกายเผาพลาญพลังงานได้ดีขึ้น แต่การว่ายเร็วติดต่อกันตลอดอาจทำให้ร่างกายบาดเจ็บได้ ดังนั้นควรว่ายน้ำช้า สลับกับการว่ายน้ำเร็ว เริ่มต้นจากอย่างละ 1 รอบ แล้วค่อยเพิ่มเป็น ช้า 2 รอบ เร็ว 2 รอบ

3. ใส่อุปกรณ์ว่ายน้ำ

ไม่ว่าจะมือพาย ตีนกบ หรือหน้ากากสน็อกเกิล จะช่วยทำให้ว่ายน้ำได้เร็วขึ้น และเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างว่ายน้ำมากขึ้น ส่งผลให้เผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น

4. อย่าว่ายอยู่ท่าเดียว

การว่ายน้ำท่าเดียวทั้งเซต หรือท่าเดียวตลอดระยะทาง 100 เมตร หรือ 200 เมตร จะเผาผลาญพลังงานได้น้อยกว่าการว่ายน้ำหลายท่าใน 1 เซต เช่น ว่ายน้ำท่าผีเสื้อ ท่ากบ ท่ากรรเชียง และจบด้วยท่าฟรีสไตล์ ใน 100 เมตร ท่าละ 25 เมตร จะเผาผลาญพลังงานได้ดีกว่ามาก

ข้อควรระวังในการว่ายน้ำ

1. ต้องอบอุ่นร่างกายให้เพียงพอ

การออกกำลังกายทุกอย่างต้องอบอุ่นร่างกายก่อนอยู่แล้ว แต่ถ้าลืมอบอุ่นร่างกายก่อนว่ายน้ำอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เพราะอาจส่งผลให้เกิดตะคริวและจมน้ำนั่นเอง

2. ระวังการติดเชื้อรา

การว่ายน้ำอาจทำให้ติดเชื้อราได้หากล้างร่างกายไม่สะอาด โดยเฉพาะผู้หญิงช่วงก่อนและหลังประจำเดือนมา 2 วัน ต้องล้างร่างกายให้สะอาดก่อนและหลังลงสระทุกครั้ง

3.ผู้ที่ไม่ควรลงว่ายน้ำ

ผู้ที่มีบาดแผล เป็นโรคผิวหนัง มีภาวะแก้วหูทะลุ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ไม่ควรออกกำลังกายโดยการว่ายน้ำ รวมถึงไม่ควรปล่อยให้เด็กหรือคนชราว่ายน้ำเพียงลำพัง เพราะหากเกิดอันตรายขึ้นจะช่วยเหลือได้ไม่ทันท่วงที

การว่ายน้ำติดต่อกันเป็นประจำไม่เพียงช่วยในการลดน้ำหนัก และทำให้หุ่นดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพมาก เช่น ช่วยให้ร่างกายรับออกซิเจนได้มากขึ้น ร่างกายดูอ่อนเยาว์กว่าวัย เป็นต้น ดังนั้นหากมีเวลา หรืออยากเปลี่ยนจากการออกกำลังกายแบบอื่น การว่ายน้ำก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดทางหนึ่งเลยทีเดียว

บทความแนะนำ …