การเล่นเกมเป็นกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายและให้ความบันเทิงในยามว่าง แต่ถ้าเล่นมากเกินไปก็อาจจะติดเกม หรือกลายเป็น “โรคติดเกม” ตามที่องค์การอนามัยโลกได้บรรจุให้เป็นโรคชนิดหนึ่ง ดังนั้นการแบ่งเวลาเล่นเกมให้ดีจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก เพื่อไม่ให้เสียการงานหรือเสียการเรียน และเสียสุขภาพ
5 เทคนิคการแบ่งเวลาเล่นเกม
1. รู้จักลักษณะเกมที่จะเล่น
เกมแต่ละเกมใช้เวลาในการเล่นไม่เหมือนกัน เช่น เกมแบบ MOBA อย่าง RoV ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีต่อหนึ่งตา เกม PUZZLE เล่นได้ตามจำนวนหัวใจที่มี เช่น หัวใจ 1 ดวงเล่นได้ 1 ตา มี 5 ดวงก็เล่นได้ 5 ตา ต้องรอหัวใจมาเติมใหม่ ส่วนเกม RPG บางเกมสามารถเล่นได้เรื่อยๆ ซึ่งถ้ารู้ลักษณะของเกมแล้ว ก็อาจกำหนดว่าจะเล่นกี่ตา หรือเคลียร์ด่านผ่านกี่ด่านจะเลิกเล่น
2. มีเป้าหมายในการเล่นแต่ละวัน
การเล่นเกมย่อมมีจุดประสงค์บางอย่าง เช่น เลเวลอัพ ผ่านด่าน หรืออัพเกรดอาวุธ ดังนั้นการเล่นในแต่ละวันควรตั้งเป้าหมายระยะสั้น เมื่อทำได้แล้วควรหยุดเล่นเพื่อเก็บไปเล่นในเวลาว่างวันอื่นๆ จะทำให้จัดสรรเวลาได้ดีขึ้น
3. ตั้งเวลาเตือน
ถ้ากำหนดเป้าหมายแล้วแต่ยังชอบหยวนกับตัวเอง เช่น บรรลุเป้าหมายนี้แล้ว ขอทำให้บรรลุอีกเป้าหมายเลยแล้วกัน เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้เวลาในการเล่นเกมยืดออกไปอีกจนบางครั้งไม่เป็นอันทำอะไร ดังนั้นควรตั้งเวลาแทนการตั้งเป้าหมาย ทางที่ดีตั้งเตือนเอาไว้เลย เช่น ตั้งนาฬิกาเตือนเมื่อครบ 2 ชั่วโมง แล้วต้องเลิกเล่นทันที
4. สำรวจงานอื่นๆ ที่ต้องทำ
ก่อนจะกำหนดเวลาเล่นเกม หรือตั้งเป้าหมายในการเล่นเกม ควรสำรวจงานอื่นๆ ก่อน เช่น การบ้าน งานค้าง งานบ้าน โดยควรทำงานหลักให้เสร็จก่อนจึงจะไปเล่นเกมได้
5. สภาพร่างกายจะบอกเอง
ถ้าร่างกายมีอาการปวดหลัง ปวดคอ คล้ายออฟฟิศซินโดรม อาจเป็นสัญญาณว่านั่งเล่นเกมนานเกินไป ควรลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายหรือไปออกกำลังกายบ้าง และบางครั้งการเล่นเกมนานๆ ก็จะทำให้นิ้วล็อกได้ด้วย
การเล่นเกมที่มากไปนอกจากจะทำให้เสียงานเสียการ สุขภาพร่างกายเสื่อมโทรมแล้ว ยังส่งผลต่อความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ไม่ว่าจะครอบครัว เพื่อน หรือคนรัก ดังนั้นจึงต้องรู้จักแบ่งเวลาเล่นเกมให้ดีและเล่นเกมแต่พอเหมาะจะดีที่สุด