การจัดฟัน ดัดฟัน…รูปแบบและสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจจัดฟัน

395
การจัดฟัน ดัดฟัน

การจัดฟัน ดัดฟันในปัจจุบันเป็นที่นิยมมาก เพราะช่วยให้ฟันอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ปรับเปลี่ยนโครงสร้างขากรรไกรให้ดูดีขึ้น ใบหน้าดูได้รูป พูดและยิ้มได้อย่างมั่นใจ การจัดฟันมีให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้งแบบโลหะที่เครื่องมือติดฟันมีสีให้เลือกหลายสี สดใส เป็นที่นิยม กับแบบที่ทำให้การดัดฟันใช้เวลาไม่นาน และมองเห็นเครื่องมือติดฟันได้ไม่ชัด เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการให้เห็นว่ากำลังดัดฟันอยู่ อย่างไรก็ตาม การจัดฟันอาจไม่จำเป็นสำหรับทุกคน หรือถ้าจัดก็ต้องเลือกรูปแบบที่เหมาะกับตนเอง ไปดูกันดีกว่าว่าสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจจัดฟันมีอะไรบ้าง

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการจัดฟัน ดัดฟัน

1. สาเหตุที่ต้องจัดฟัน

แม้ในปัจจุบันการจัดฟันเหมือนเป็นแฟชั่นอย่างหนึ่ง แต่อย่างไรจุดประสงค์ที่แท้จริงของการดัดฟันก็เพื่อให้ฟันอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากฟันที่ไม่เป็นระเบียบ โดยลักษณะของฟันที่ควรดัดฟันมีดังนี้

  • ฟันยื่น คือฟันยื่นโดดเด่นออกมา ทำให้ใบหน้าไม่สมส่วน
  • ฟันห่าง ทำให้มีปัญหาในการเคี้ยวอาหาร และอาจฟันล้มเมื่อมีอายุมากขึ้น
  • ฟันซ้อนเก คือ ฟันขึ้นซ้อนกัน ทำให้เหมือนฟันเยอะ ฟันเต็มปาก พูดได้ไม่ถนัด
  • ฟันสบลึก ปัญหานี้เกิดจากลักษณะกรามหรือขากรรไกรที่ทำให้ฟันสบไม่เสมอกัน ยิ้มแล้วจะไม่เห็นฟันล่าง
  • ฟันสบเปิด คือ เมื่อฟันสบกันแล้ว ฟันหน้าบนจะมีช่องว่างห่างจากฟันหน้าล่างมาก
  • ฟันล่างคร่อมฟันบน คือ ยิ้มแล้วฟันล่างจะคร่อมฟันบน เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของขากรรไกร

2. อายุของผู้จัดฟัน

  • วัยเด็ก (6-12 ปี) ยังไม่ควรจัดฟัน เพราะเป็นช่วงที่ฟันแท้ยังขึ้นไม่หมดและขากรรไกรเจริญเติบโต แต่ถ้าดัดฟันในช่วงวัยนี้ก็จะช่วยให้การเจริญเติบโตของขากรรไกรเป็นไปอย่างถูกต้องสมบูรณ์มากขึ้น
  • วัยรุ่น (10-20 ปี) เหมาะกับการจัดฟันที่สุด เพราะเป็นวัยที่ฟันแท้ขึ้นหมดแล้ว
  • วัยผู้ใหญ่ (20 ปีขึ้นไป) สามารถจัดฟันได้เช่นกัน แต่อาจเห็นผลช้ากว่าวัยรุ่นที่ยังอยู่ในช่วงเจริญเติบโต การดัดฟันในช่วงวัยผู้ใหญ่มักเป็นการแก้ไขฟันที่ขึ้นผิดตำแหน่ง

3. รูปแบบของการจัดฟัน

  • การจัดฟันแบบโลหะ (Metal) เป็นการติดเครื่องมือโลหะหรือ Bracket ไว้บนผิวหน้าของฟันแล้วติดลวดลงไป จากนั้นจึงใช้ยาง O-ring รัดลวดให้ติดกับเครื่องมือจัดฟัน ซึ่งต้องปรับเครื่องมือจัดฟันทุกเดือน ราคาค่าใช้จ่ายเดือนละประมาณ 1,000 – 2,000 บาท ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปีขึ้นไป
  • การจัดฟันแบบเซรามิก (Ceramic) คือการใช้เครื่องมือเซรามิกใสติดบนผิวหน้าของฟันแล้วติดลวดลงไป จากนั้นจึงใช้ยางแบบใสรัดลวดให้ติดกับเครื่องมือจัดฟัน ซึ่งเครื่องมือแบบเซรามิกใสทำให้สีกลมกลืนกับสีฟัน เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการให้สังเกตเห็นได้ชัดว่ากำลังจัดฟัน ต้องปรับเครื่องมือจัดฟันทุกเดือน ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปีขึ้นไป
  • การจัดฟันแบบดามอน (Damon) คือการใช้เครื่องมือแบบ Damon System มีจุดเด่นคือไม่ต้องใช้ยางรัดเครื่องมือ และไม่ต้องถอนฟัน การจัดฟันแบบดามอนมี 2 รุ่นคือ Damon Q ที่เป็นโลหะ กับ Damon Clear2 ที่เป็นแบบใส ต้องปรับเครื่องมือทุกเดือน ค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละ 3,000 บาท ระยะเวลาในการจัดฟันน้อยกว่าแบบโลหะและแบบเซรามิก
  • การจัดฟันแบบใส (Invisalign) เป็นการจัดฟันที่ไม่ต้องติดเครื่องมือแน่นบนผิวฟัน สามารถถอดออกมาตอนจะรับประทานอาหารได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้ผู้อื่นสังเกตเห็นว่ากำลังจัดฟันอยู่ เช่น ดารา นักแสดง ค่าใช้จ่ายมีทั้งค่าวิเคราะห์สภาพฟันก่อนและหลังการจัด ค่าผลิตอุปกรณ์การจัดฟัน ค่ารีเทนเนอร์ ส่วนค่าจัดฟันต่อเดือนประมาณ 10,000 บาท ระยะเวลาในการจัดฟันประมาณ 6 เดือน ถึง 2 ปีขึ้นไป

4. ขั้นตอนการจัดฟัน

  • ขั้นแรกคือปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อให้แพทย์ประเมินโครงสร้างกระดูกและขากรรไกร และรูปหน้า ว่าควรจัดฟันหรือไม่
  • ถ้าแพทย์เห็นว่าสมควรจัดฟัน จะทำการตรวจสุขภาพฟันและเคลียร์ช่องปากสำหรับการจัดฟัน คือ ถอนฟันคุด อุดฟัน ขัดหินปูน เคลือบร่องฟัน รวมทั้งถอนฟันบางซี่แล้วแต่ดุลยพินิจของแพทย์
  • เมื่อเคลียร์ช่องปากแล้ว แพทย์จะติดเครื่องมือจัดฟันตามรูปแบบที่เหมาะสม แล้วนัดหมายปรับฟันทุกเดือน จนกว่าฟันจะเข้าตำแหน่งที่ต้องการ

5. การดูแลตัวเองขณะจัดฟัน

  • ต้องระวังเรื่องการดูแลความสะอาดเป็นอย่างมาก เพราะอาหารที่รับประทานเข้าไปจะติดตามซอกของเครื่องมือจัดฟันได้ง่าย
  • ควรแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อเพื่อไม่ให้มีเศษซากอาหารตกค้างตามซอกของเครื่องมือ
  • ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่แข็ง เช่น กระดูกไก่ ถั่วบางประเภท หรือการกินข้าวโพดจากฝัก และการเคี้ยวหมากฝรั่ง เพราะจะทำให้เครื่องมือจัดฟันเสียหายได้

การจัดฟัน ดัดฟันแต่ละแบบมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกัน ถ้าต้องการจัดฟันแบบเห็นผลเร็ว และดูไม่เห็นว่ากำลังจัดฟันอยู่ก็จะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ดังนั้นต้องดูที่ความจำเป็นและความเหมาะสม รวมถึงคนที่เคยจัดฟันมาแล้วแต่ไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์คงสภาพฟันจนฟันเปลี่ยนตำแหน่ง หากต้องการจัดฟันใหม่ ต้องตรวจสุขภาพของรากฟันให้ดี เพราะฟันจะไม่แข็งแรงเท่ากับก่อนจัดฟันครั้งแรก