สรรพคุณของถั่งเช่า…รับประทานอย่างไรให้ปลอดภัย?

652
สรรพคุณของถั่งเช่า

ถั่งเช่าเป็นหนึ่งในสมุนไพรจีนที่คนนิยมรับประทานกันเพื่อบำรุงร่างกาย แม้สรรพคุณที่ทำให้มีชื่อเสียงจะเป็นการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ แต่แท้จริงแล้วถั่งเช่าช่วยรักษาและบรรเทาอาการต่างๆ ได้อีกมากมาย ไปดูกันดีกว่าว่าถั่งเช่ามีที่มาและสรรพคุณอย่างไร รวมถึงจะรับประทานอย่างไรให้ปลอดภัย

ถั่งเช่าคืออะไร?

ถั่งเช่า หรือ ตังถั่งเช่า หรือ ตังถั่งแห่เช่า มีความหมายว่า “ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า” นิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า “หญ้าหนอน” และมีสมญานามว่า “ไวอากร้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย” ถั่งเช่าประกอบด้วย 2 ส่วน คือส่วนที่เป็นเห็ดราในสกุล Ophiocordyceps มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Ophiocordyceps sinensis และส่วนซากตัวหนอน ที่เป็นตัวอ่อนของแมลงประเภทผีเสื้อ มอด ตั๊กแตน และด้วงค้างคาว

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมสมุนไพรชนิดนี้จึงมีส่วนประกอบของซากตัวหนอนด้วย สาเหตุมาจากวิธีการเกิดของถั่งเช่า โดยเกิดจากหนอนจำศีลใต้ดินภูเขาหิมะในฤดูหนาว เมื่อน้ำแข็งเริ่มละลาย สปอร์เห็ดพัดมากับน้ำแข็งที่ละลายมาอยู่บนพื้นดิน หนอนจึงกินสปอร์เข้าไป ซึ่งสปอร์เห็ดจะเติบโตโดยการดูดสารอาหารและแร่ธาตุจากหนอน เมื่อถึงฤดูร้อนสปอร์ก็เติบโตเป็นเส้นใยลักษณะคล้ายไม้กระบอกงอกขึ้นสู่พื้นดินเพราะต้องการแสง ขณะที่หนอนจะค่อยๆ ตายไป กลายเป็นซากหนอนและเห็ดแห้ง หรือถั่งเช่า

ถังเช่าเป็นสมุนไพรที่อยู่ในที่ราบสูงทิเบต ถังเช่าที่มาจากเทือกเขาหิมาลัยเป็นที่รู้จักกันดีที่สุด และสำหรับสมญานาม “ไวอากร้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย” เพราะถังเช่ามีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องการเสริมสมรรถภาพเพศชายนั่นเอง ส่วนรสชาติเป็นรสขมอมหวาน การรับประทานถังเช่าสามารถรับประทานได้ทั้งแบบสด นำไปต้มรับประทาน ประกอบอาหาร รวมทั้งนำไปบดใส่แคปซูล และนำไปทำชาถั่งเช่า

สำหรับถั่งเช่าที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย คือ ถั่งเช่า และถั่งเช่าสีทอง

ถั่งเช่ามีสรรพคุณอย่างไร?

1. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

ช่วยกระตุ้นการสร้างแอนติบอดีในร่างกาย จึงทำให้ร่างกายเพิ่มจำนวนเซลล์ที่ใช้กำจัดเซลล์แปลกปลอมหรือเซลล์ที่ตายแล้วออกจากร่างกายได้ แต่ต้องใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่อย่างนั้นอาจไปกดการทำงานบางอย่างของระบบภูมิคุ้มกันได้

2. ช่วยปรับการทำงานของหัวใจ

ช่วยปรับอัตราการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ และบรรเทาอาการหัวใจขาดออกซิเจน

3. ช่วยควบคุมไขมันในเลือด

ช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือด ลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ จึงดีต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด

4. ช่วยต้านมะเร็ง

ถังเช่ามีสารคอร์ไดเซปินที่มีฤทธิ์ป้องกันการเกิดและแพร่กระจายของมะเร็ง และช่วยไม่ให้ผู้ป่วยมะเร็งที่รักษาได้แล้วไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก

5. เสริมสร้างการทำงานของตับและไต

ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเมื่อกินถั่งเช่าจะบรรเทาอาการลง ส่วนตับจะได้รับผลกระทบจากสารพิษน้อยลง และป้องกันการเกิดพังผืดในตับ

6. ช่วยบำรุงโลหิต

ถังเช่ามีสรรพคุณช่วยให้ร่างกายสร้างไขกระดูก เซลล์เม็ดเลือดแดง และเซลล์เม็ดเลือดขาวมากขึ้นให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย

7. ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

การรับประทานถังเช่าวันละ 3 กรัม จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ถึง 95% ทำให้เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานมาก

8. เพิ่มสมรรรถภาพทางเพศ

สรรพคุณข้อนี้ของถั่งเช่าเป็นที่รู้จักกันดีที่สุด เนื่องจากถังเช่ามีสารคอร์ดิไซปิน ที่มีฤทธิ์เทียบเท่าฮอร์โมนเพศชายตัวเทสโทสเตอโรน และไม่รบกวนสมดุลฮอร์โมนร่างกาย และฮอร์โมนไนตริกออกไซด์ที่ช่วยในการแข็งตัวขององคชาติในเพศชาย

รับประทานถั่งเช่าอย่างไรให้ปลอดภัย?

1. ปริมาณการบริโภค

วิธีการรับประทานถังเช่าต้องบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะเพราะถังเช่ามีสรรพคุณช่วยสร้างแอนติบอดี ถ้าบริโภคในปริมาณมากไปอาจไปกดการทำงานของภูมิคุ้มกันบางอย่างในร่างกาย ดังนั้นปริมาณที่ควรบริโภคต่อวัน มีดังนี้

  1. ถั่งเช่าจากทิเบต หรือ ถั่งเช่าแท้ที่เกิดในธรรมชาติ ไม่ควรบริโภคเกินวันละ 8 กรัม
  2. ถั่งเช่าสีทอง หรือ ถั่งเช่าเพาะเลี้ยง ไม่ควรบริโภคเกินวันละ 3 กรัม
  3. แคปซูลถั่งเช่า กรณีบริโภคเป็นแคปซูล ส่วนใหญ่จะบรรจุเม็ดละ 500 มิลลิกรัม แบ่งได้ดังนี้
  4. บริโภคเพื่อบำรุงร่างกาย วันละ 2 แคปซูล
  5. บริโภคหากมีโรคประจำตัว วันละ 4 แคปซูล

ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ในกรณีที่ต้องการบริโภคเพื่อรักษาโรค

2. ผู้ที่ไม่ควรบริโภค

  • สตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร
  • ผู้ป่วยที่ได้รับยากลุ่มป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือด
  • ผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน เพราะถั่งเช่าจะลดประสิทธิภาพในการทำงานของยา
  • ผู้ที่แพ้เห็ด
  • ผู้ป่วยเบาหวานที่รับประทานยาลดน้ำตาลในเลือดอยู่แล้ว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการบริโภคถั่งเช่า
  • ผู้ที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัด เพราะถั่งเช่ามีฤทธิ์ทำให้เลือดแข็งตัวช้า

3. ผลข้างเคียงและวิธีแก้

ผู้ที่บริโภคถั่งเช่าแล้วมีผลข้างเคียง ส่วนใหญ่มักเกิดในระยะเริ่มแรกของการบริโภค เนื่องจากถั่งเช่าช่วยขับพิษและปรับสมดุลในร่างกาย ซึ่งอาการมีดังนี้ คอแห้ง ริมฝีปากแห้ง กระหายน้ำ ปวดท้องคล้ายจุกเสียด ปวดหัวตุบๆ ตาพร่ามัวและขอบตาแดง ถ้าเป็นในระดับรุนแรงอาจมีเลือดกำเดาออก วิธีแก้คือให้นั่งพักนิ่งๆ และดื่มน้ำมากๆ ในระยะเวลา 1-2 ชั่วโมง อาการจะทุเลาลง และควรลดปริมาณที่รับประทานเป็นเวลา 1-3 สัปดาห์

หลังจากบริโภคถั่งเช่าควรดื่มน้ำอุ่น และดื่มน้ำให้มากขึ้น รวมทั้งออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายดูดซึมสารต่างๆ ได้ดีขึ้น แต่ถ้ามีอาการหายใจไม่ออก หรืออาการแพ้แบบอื่นๆ นอกเหนือจากที่กล่าวมา ให้งดการบริโภคทันที

ไม่ว่าจะรับประทานถั่งเช่าเพื่อการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ หรือเพื่อบำรุงร่างกายและรักษาโรค ก็จะเห็นได้ว่าถั่งเช่ามีผลข้างเคียงไม่น้อยหากได้รับในปริมาณที่ไม่เหมาะสม หรือเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่ ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ เภสัช หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรก่อนเลือกบริโภคเพื่อความปลอดภัย