สารก่อภูมิแพ้ภายในบ้าน…อันตรายใกล้ตัวที่หลีกเลี่ยงและป้องกันได้

388
สารก่อภูมิแพ้ภายในบ้าน

โรคภูมิแพ้เป็นโรคประจำตัวของใครหลายคน ซึ่งมักเกิดอาการแพ้เมื่อสัมผัสหรือสูดเอาสารก่อภูมิแพ้เข้าไป โดยสารก่อภูมิแพ้นั้นมีขนาดเล็กจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และกระจายอยู่ในอากาศที่หายใจ จึงเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ แต่ถ้ารู้วิธีป้องกันก็จะช่วยลดไม่ให้เกิดอาการแพ้ได้

สารก่อภูมิแพ้คืออะไร?

สารก่อภูมิแพ้ คือ สารที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ในคนที่ระบบภูมิคุ้มกันมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อสารนั้นๆ แต่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับคนทั่วไป สารก่อภูมิแพ้มักอยู่ในฝุ่นละอองตามอากาศ รวมทั้งอาหารและยา ส่วนอาการแพ้นั้นเกิดขึ้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เช่น ไอ จาม น้ำมูกไหล คันตา คันและคัดจมูก หายใจลำบาก เกิดผื่นคันตามผิวหนัง ไปถึงขั้นอาเจียน หมดสติ และเกิดอาการช็อก

สารก่อภูมิแพ้ภายในบ้านและการป้องกัน

หลายคนอาจจะกังวลแต่ปัจจัยที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้เมื่ออยู่นอกบ้าน แต่แท้จริงแล้วภายในบ้านก็มีสารก่อภูมิแพ้ที่แอบแฝงอยู่ ซึ่งเป็นอันตรายที่คนส่วนใหญ่มักจะมองข้ามไปและไม่ได้ป้องกันให้ดี

1. สัตว์เลี้ยง

มักเกิดจากสัตว์เลี้ยงที่มีขนอย่าง สุนัข แมว แฮมสเตอร์ กระต่าย รวมถึงเป็ด ไก่ โดยสารก่อภูมิแพ้จะอยู่ในรังแค ขน และสิ่งขับถ่ายของสัตว์

สารก่อภูมิแพ้จากสุนัขและแมวมีขนาดเล็กใกล้เคียงกัน มักลอยปะปนในอากาศ มีลักษณะเหนียว เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้ง่าย และสารก่อภูมิแพ้จากสุนัขมักติดตามเฟอร์นิเจอร์และผ้าต่างๆ ขณะที่สารก่อภูมิแพ้จากแมวจะคงอยู่ในบ้านได้นานถึง 5-6 เดือนแม้ว่าแมวจะไม่อยู่แล้ว

การป้องกันสารก่อภูมิแพ้จากสัตว์เลี้ยง

  1. อาบน้ำสัตว์เลี้ยงเป็นประจำเพื่อลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้
  2. ทำความสะอาดบ้าน โดยเฉพาะบริเวณพรม และเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นแหล่งสะสมของสารก่อภูมิแพ้
  3. เลี้ยงสัตว์นอกบ้าน เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของสารก่อภูมิแพ้ภายในบ้านน้อยลง
  4. ใช้เครื่องฟอกอากาศ จะช่วยลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้

2. ไรฝุ่น

ไรฝุ่นคือตัวแมงมี 8 ขา มีขนาดเล็กมากจนไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า มักอาศัยอยู่บนที่นอน เฟอร์นิเจอร์บุนวม พรม ที่ที่มีความอบอุ่นและชุ่มชื้น ไรฝุ่นกินสะเก็ดผิวหนังและรังแคของมนุษย์ รวมถึงเชื้อราและแบคทีเรียเป็นอาหาร สารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่นเกิดจากโปรตีนของตัวไรฝุ่นคือ อุจจาระและเปลือกของไรฝุ่นนั่นเอง โดยจะปะปนกับอากาศที่เราสูดหายใจเข้าไป ทำให้เกิดอาการแพ้เช่นไอ จาม คัดจมูก รวมถึงมีผื่นคัน

การป้องกันสารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่น

  1. ใช้ผ้ากันไรฝุ่น หรือพลาสติก คลุมที่นอนทุกครั้งหลังจัดเก็บ
  2. ซักเครื่องนอนทุกสัปดาห์ โดยซักในน้ำร้อนอุณหภูมิประมาณ 55-60 องศาเซลเซียสเป็นเวลาประมาณอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง
  3. ควรทำความสะอาดห้องนอนอยู่เสมอ อย่าให้เป็นที่เก็บสะสมฝุ่น วิธีที่ดีที่สุดคือการใช้เครื่องดูดฝุ่น
  4. เปิดม่านและหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท และให้แสงแดดส่องเข้ามา จะช่วยลดปริมาณของไรฝุ่นได้
  5. ใช้เครื่องฟอกอากาศ จะช่วยลดสารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่นได้

3. แมลงสาบ

แมลงสาบเป็นสัตว์อีกชนิดที่มีสารก่อภูมิแพ้ แมลงสาบจะอาศัยอยู่ในที่ที่มีความอบอุ่นและความชื้น มักพบมากในห้องครัวและห้องน้ำ เพราะอาหารของแมลงสาบคือ แป้ง น้ำตาล ถั่ว ซากสัตว์ เลือด น้ำลาย และอุจจาระ สารภูมิแพ้จากแมลงสาบนั้นเกิดขึ้นจากเปลือกแข็งหุ้มตัวแมลงสาบ ขา น้ำลาย และมูลของแมลงสาบ

การป้องกันสารภูมิแพ้จากแมลงสาบ

  1. ทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ และกำจัดสิ่งที่เป็นแหล่งอยู่อาศัยของแมลงสาบ เช่น ของเหลือใช้ หนังสือพิมพ์เก่า
  2. ทำความสะอาดภาชนะใส่อาหารเสมอ ไม่ควรวางทิ้งไว้ เพราะอาหารเหลือที่อยู่ในภาชนะจะเป็นอาหารเหลือของแมลงสาบ
  3. จัดเก็บจานใส่ตู้ให้มิดชิด และหาฝาปิดถังขยะเสมอ เพื่อไม่ให้แมลงสาบเข้าไปได้
  4. หากพบซากแมลงสาบ ให้ทำความสะอาดโดยใช้ไม้ม็อบหรือผ้าเช็ดถูด้วยน้ำยาทำความสะอาดพื้น

4. เชื้อรา

เชื้อรามักเกิดขึ้นในที่ที่มีความชื้น ไม่ว่าจะนอกบ้านหรือในบ้าน เช่น ห้องครัว ห้องน้ำ หรือห้องนอน สารก่อภูมิแพ้เกิดจากสปอร์ของเชื้อราซึ่งมีขนาดเล็กเพียง 2-5 ไมครอน ซึ่งตาเปล่าไม่สามารถมองเห็นได้ และสปอร์ของเชื้อราสามารถแพร่กระจายในอากาศไปได้ทั่ว เมื่อสูดหายใจเข้าไปจะก่อให้เกิดอาการแพ้ได้

เชื้อรามีหลายชนิด ทั้ง เพนิซิลเลียม (Penicilliuim) เชื้อราสีเขียวที่เกิดจากอาหารบูด เช่น ขนมปังหมดอายุ แอสเปอร์จิลลัส (Aspergillus) เชื้อราสีดำ เกิดจากอาหารบูด อาหารค้างคืน, คลาโดสปอเรียม (Cladosporium)  เชื้อราชนิดนี้มักพบนอกบ้าน ตามซากพืชซากสัตว์ ไปจนถึงตู้เย็น และ ออลเทอนาเรีย (Alternaria) มักพบตามพื้นดิน และใบไม้แห้งที่ทับถมกัน

การป้องกันสารก่อภูมิแพ้จากเชื้อรา

  1. ทำบ้านให้มีอากาศถ่ายเท เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งกำเนิดและอยู่อาศัยของเชื้อรา
  2. หมั่นทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ
  3. ใช้เครื่องฟอกอากาศ จะช่วยลดปริมาณของสปอร์เชื้อราในอากาศได้
  4. ทำความสะอาดบ้านโดยใช้น้ำยาฟอกขาว โดยผสมน้ำยาฟอกขาวกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:9
  5. กวาดใบไม้ที่ร่วงในสวนอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้สะสม เพราะจะเป็นแหล่งกำเนิดของเชื้อรา

5. ละอองเกสร

ละอองเกสรดอกไม้เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของอาการภูมิแพ้ โดยละอองมีขนาดเล็กมาก ประมาณ 0.01 มิลลิเมตร มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า มักฟุ้งกระจายในอากาศและแพร่กระจายไปได้ไกลมาก ละอองเกสรจากต้นหญ้า วัชพืช มักกระจายไปได้ไกลกว่าเกสรดอกไม้ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า และต้องใช้แมลง เช่น ผึ้ง ผีเสื้อ ในการช่วยกระจายเกสรดอกไม้

การป้องกันสารก่อภูมิแพ้จากละอองเกสร

  1. ใช้เครื่องฟอกอากาศ เพื่อป้องกันอาการแพ้เมื่ออยู่ในบ้าน
  2. รับประทานยาสร้างภูมิคุ้มกัน
  3. ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกมานอกบ้าน

การป้องกันตัวเราเองและคนในบ้านโดยการจัดการกับต้นเหตุที่ก่อให้เกิดสารก่อภูมิแพ้ เป็นหนทางที่ดีในการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอาการแพ้ เนื่องจากหลายๆ ครั้งอาการแพ้ก็สร้างความรำคาญใจ หรืออาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงที