ศัลยกรรมความงาม…10 ข้อที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรม

340
ศัลยกรรมความงาม

ปัจจุบันการศัลยกรรมความงามแทบจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับสาวๆ ไปแล้ว เพราะไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาให้สวยกว่าเดิมจนเป็นคนละคน อย่างเช่น การทำตาสองชั้น การเสริมจมูก การลดโหนกแก้ม การเสริมคาง การตัดกราม นอกจากนี้ก็ยังสามารถทำศัลยกรรมเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องได้ด้วย อย่างเช่น ปัญหาหนังตาตก ผิวหนังหย่อนยาน หน้าอกหย่อนคล้อย ไขมันสะสมที่หน้าท้อง สำหรับใครที่กำลังคิดจะทำศัลยกรรมเสริมความงามเป็นครั้งแรก มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้างที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย

10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับศัลยกรรมความงาม

1. รู้เท่าทันสื่อออนไลน์

ปัจจุบันผู้บริโภคไม่ค่อยเชื่อโฆษณาจากตัวแบรนด์เอง แต่หันไปเชื่อการรีวิว การถามตอบตามกระทู้ต่างๆ รวมถึงการแนะนำจากบรรดาบิวตี้บล็อกเกอร์มากกว่า ทำให้คลินิกศัลยกรรมความงามหันไปทำการตลาดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ มากขึ้น ทั้งการไล่ตอบตามกระทู้เกี่ยวกับการศัลยกรรมเพื่อโฆษณาคลินิกตนเอง การจ้างบิวตี้บล็อกเกอร์รีวิว ดังนั้นหากสนใจทำศัลยกรรมแล้วค้นหาข้อมูลบนโลกออนไลน์ก็ต้องไตร่ตรองให้ดีว่ารีวิวดังกล่าวเป็นหน้าม้าหรือไม่ สังเกตง่ายๆ ว่ามักจะพูดแต่ข้อดีเท่านั้น และไม่พูดในเชิงผู้บริโภคเท่าไหร่นัก และควรเช็คจากหลายๆ แห่งเพื่อเปรียบเทียบข้อเท็จจริง

2. ดูประวัติแพทย์และคลินิกให้ละเอียด

เมื่อได้รายชื่อคลินิกหรือแพทย์ที่สนใจแล้ว ให้ศึกษาประวัติให้ละเอียด เช่น แพทย์มีใบอนุญาตจริงหรือไม่ และมีใบประกาศวุฒิบัตรหรืออนุมัติบัตรว่าเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านใด โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อแพทย์จากเว็บไซต์ของแต่ละสมาคม ส่วนคลินิกหรือสถานพยาบาลต้องได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการจากกระทรวงสาธารณะสุข มีเลขที่ใบอนุญาตเปิดเผยให้เห็นชัดเจนเพื่อให้ตรวจสอบได้ง่าย ห้องผ่าตัดและเครื่องมือต้องสะอาดและปลอดเชื้อ เป็นต้น

3. ปรึกษาหลายๆ ที่ก่อนตัดสินใจ

นอกเหนือจากความน่าเชื่อถือแล้ว การพูดคุยปรึกษาขอคำแนะนำจากแพทย์เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะจะสามารถดูได้ว่าแพทย์ให้คำแนะนำได้ดีไหม มีความเป็นกันเอง ติดต่อเข้าถึงได้ง่ายไหม หรือมุ่งแต่จะเสนอขายคอร์สต่างๆ มากกว่าจะให้ข้อมูลความรู้ที่จำเป็น

4. ศัลยแพทย์ที่คุณเลือกไม่ได้ลงมือเองทั้งหมด

สำหรับคนที่เลือกได้แล้วว่าไว้ใจจะทำศัลยกรรมกับแพทย์ที่ให้คำปรึกษาเป็นอย่างดีและดูเป็นผู้เชี่ยวชาญ ก็ต้องดูด้วยว่าผู้ช่วยแพทย์หรือพยาบาลมีความรู้ความชำนาญหรือไม่ เพราะตอนผ่าตัดจริงแพทย์จะเป็นคนกรีด และผู้ช่วยหรือพยาบาลจะเป็นคนเย็บตกแต่งแผล ถ้าหากไม่มีความชำนาญ ผลอาจออกมาไม่ตรงตามที่คิดไว้ก็ได้

5. ตรวจความพร้อมร่างกายก่อนผ่าตัด

ก่อนผ่าตัด สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือการตรวจร่างกายว่าเรามีความพร้อมหรือไม่ และต้องทราบกรุ๊ปเลือดเพื่อที่คลินิกหรือสถานพยาบาลจะได้เตรียมเลือดสำรองไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินระหว่างผ่าตัด อีกทั้งระหว่างการผ่าตัดต้องไม่อยู่ในช่วงมีประจำเดือนเพราะจะยิ่งทำให้เสียเลือดมากหรือเกิดอาการบวมได้

6. เตรียมลาหยุดและสถานที่ในการพักฟื้นหลังศัลยกรรม

การผ่าตัดต้องมีการพักฟื้นซึ่งอาจกินเวลาหลายวัน จึงต้องลางานเอาไว้ล่วงหน้า รวมถึงต้องมีสถานที่ที่สะดวกต่อการพักผ่อน เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อแผลผ่าตัด

7. ศัลยกรรมย่อมเจ็บเป็นธรรมดา

การศัลยกรรมคือการผ่าตัด ดังนั้นย่อมเจ็บเป็นธรรมดา โดยสามอันดับแรกที่ถูกยกให้เป็นการศัลยกรรมที่เจ็บมากที่สุดคือ การลดขนาดหน้าท้อง การเสริมหน้าอก การผ่าตัดด้วยเลเซอร์ทั้งหน้าหรือลบริ้วรอยและแผลเป็น

8. มีรอยแผลเป็นหลังศัลยกรรม

แม้เทคโนโลยีการศัลยกรรมจะก้าวหน้าเพียงใด แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นการผ่าตัดก็ยังทิ้งรอยแผลเป็นไว้อยู่ เพียงแต่อาจจะมีรอยเล็กลง หรือซ่อนไว้ให้ดูเป็นธรรมชาติ

9. ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับราคา

อย่าเห็นแก่ของถูกโดยเฉพาะการศัลยกรรมความงามที่ส่งผลต่อรูปลักษณ์ หรืออาจก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้ เช่น การฉีดโบทอกซ์ ถ้าเลือกในราคาที่ถูกกว่าที่อื่นๆ ครึ่งหนึ่ง อาจจะได้ปริมาณที่น้อยกว่า หรือไม่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นอันตรายกับร่างกาย อาจต้องเสียเงินค่ารักษาที่มากกว่าในภายหลังได้

10. ถ้าไปศัลยกรรมต่างประเทศต้องเลือกเอเจนซี่ที่เชื่อถือได้

สาวๆ หลายคนเลือกไปศัลยกรรมที่ต่างประเทศ เช่น เกาหลี ซึ่งการไปกับเอเจนซี่จะได้รับความสะดวกสบายและราคาที่ถูกกว่าเนื่องจากเอเจนซี่ส่งไปครั้งละหลายคนทำให้ต่อรองราคาได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องเลือกเอเจนซี่เชื่อถือได้ มีการเปิดเป็นบริษัทถูกต้องตามกฎหมาย และควรเช็คจากรีวิวหลายๆ แห่ง หรือสอบถามจากคนที่เคยไปทำมาแล้วจะดีที่สุด

หลังจากทำศัลยกรรมความงามเรียบร้อย การมีคนใกล้ตัวทักว่าสวยหรือดูดีขึ้นจะเสริมความมั่นใจมากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็อาจมีคนที่บอกว่าชอบแบบเดิมมากกว่า หรือบอกว่าทำแล้วไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ ซึ่งความจริงแล้วการศัลยกรรมเป็นเรื่องของความพึงพอใจส่วนบุคคล ผู้ทำศัลยกรรมจึงต้องมีทัศนคติในแง่บวกต่อการศัลยกรรมด้วยเพื่อให้พึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ ไม่ไขว้เขวนั่นเอง