New Normal คืออะไร? วิถีชีวิตของเราจะเปลี่ยนไปอย่างไรหลังโควิด-19

421
New Normal

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (COVID-19) ที่ได้ระบาดและส่งผลกระทบต่อผู้คนทั่วทั้งโลก ซึ่งส่งผลให้วิถีชีวิตของคนทั่วไปต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล จนมีคำว่า “New Normal” ปรากฏขึ้นมาในสังคมและถูกใช้กันจนเป็นปกติไปเสียแล้ว วันนี้เราจะมารู้จักกับความหมายของคำว่า New Normal และมาดูกันว่าอนาคตการใช้ชีวิตของเรานั้นจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างหลังโควิด-19

New Normal คืออะไร?

New Normal หมายถึง ความปกติใหม่หรือฐานชีวิตใหม่ เป็นรูปแบบการดำเนินชีวิตอย่างใหม่ที่แตกต่างจากอดีตเนื่องจากมีเหตุการณ์บางอย่างมาเป็นสิ่งกระทบ ทำให้วิธีการดำเนินชีวิตที่สังคมคุ้นเคยนั้นต้องเปลี่ยนแปลงไปสู่รูปแบบใหม่ที่ทุกคนต้องปรับตัวตามสถานการณ์ปัจจุบัน

แม้สถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดจะทำให้คำว่า “New Normal” เป็นที่รู้จักขึ้นมามากขึ้น แต่ที่จริงแล้วคำนี้มีการใช้เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.2008 โดยใช้เป็นคำนิยามสภาวะเศรษฐกิจโลกในช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ (Hamburger Crisis) ปี ค.ศ. 2007 – 2008 ในสหรัฐอเมริกา และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ทั่วโลก (Great Recession) ช่วงปี ค.ศ. 2008 – 2012

วิถีชีวิตที่ควรปรับเปลี่ยนตาม New Normal

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ทำให้รูปแบบการใช้ชีวิตของคนในสังคมเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้คนในสังคมต้องปรับตัวยอมรับความเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอยู่ไม่น้อยเพื่อป้องกันตัวเองจากโรคระบาดชนิดนี้

1. หน้ากากอนามัย เจลล้างมือต้องครบ

หน้ากากอนามัยและเจลล้างมือกลายเป็นของที่ขาดไม่ได้แล้วเวลาออกจากบ้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยก็ต้องอยู่ติดหน้าทุกคนเสมอ และผู้คนยังนิยมรักษาสุขอนามัยด้วยการปรับพฤติกรรมการล้างมือให้ถูกวิธีหรือพกเจลล้างมือแอลกอฮอล์ติดตัวไว้ตลอดเวลาก็กลายเป็นพฤติกรรมที่ทุกคนทำกันจนเป็นที่เคยชิน

บทความแนะนำ

2. เว้นระยะห่าง งดการสัมผัส

การเว้นระยะห่าง 1 – 2 เมตร  Social Distancing” หรือ การเว้นระยะห่างทางสังคม เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อป้องกันการสัมผัสสิ่งของร่วมกัน เมื่อวิกฤตโควิด-19 ผ่านพ้นไป ความกังวลต่อเชื้อไวรัสนี้ก็คงส่งผลให้ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์ทางร่างกายกันน้อยลง เช่น การจับมือ กอดหรือหอมแก้ม โดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่สนิทสนมกัน

บทความแนะนำ

3. โลกโซเชียลมีเดียเข้าถึงคนทุกเพศทุกวัยมากขึ้น

โดยปกติเราจะเห็นว่าวัยรุ่นและวัยทำงานเป็นคนกลุ่มหลักที่ใช้โซเชียลมีเดียในการติดต่อกัน แต่ในช่วงหลังจากที่โควิด-19 ระบาด ทุกครอบครัวได้ใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากยิ่งขึ้น ชีวิตบนโลกออนไลน์จึงกลายเป็นเรื่องปกติของคนทุกเพศทุกวัยที่มีไว้ใช้ติดต่อกับเพื่อนฝูงและใช้ติดตามข่าวสารได้ทันท่วงทีในช่วงเวลาที่ต้องอยู่แต่บ้านไม่ควรออกไปไหน

4. Work from Home มีบทบาทต่อชีวิตมากขึ้น

หนึ่งในนโยบายสำคัญที่ช่วยป้องกันโรคโควิด-19 ที่ถูกนำมาใช้กับองค์กรต่าง ๆ คือ การทำงานที่บ้าน หรือ “Work from Home” เพื่อลดการพบปะและการใช้ของร่วมกันในที่สาธารณะซึ่งช่วยลดการแพร่ระบาดได้ ซึ่งการ Work from Home ก็อาจเป็นที่ติดอกติดใจของหลายคนจนอยากทำงานที่บ้านกันตลอดเลยก็ได้ ในอนาคตหลากหลายองค์กรอาจให้ความสำคัญกับการทำงานที่บ้านมากขึ้น เพราะช่วยให้พนักงานลดค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทางและมีสมดุลทางการทำงานที่ดีขึ้น เช่น Twitter ก็อนุญาตให้พนักงานทำงานที่บ้านถาวรได้หลังสถานการณ์โรคโควิด-19 ดีขึ้นแล้ว

5. มี Work from Home แล้ว ก็ต้องมี Learn from Home ด้วยเช่นกัน

นอกจากการทำงานที่บ้านจะเข้ามามีบทบาทแล้ว การเรียนที่บ้าน หรือ Learn from Home” ก็จะเข้ามาเป็น New Normal ในส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเด็กนักเรียนในยุคนี้ด้วยเช่นกัน ในอนาคตการเรียนออนไลน์จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเด็กนักเรียนในอนาคต เพื่อลดการอยู่รวมกันในบรรยากาศปิดที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ แต่อย่างไรก็ตามการเรียนหนังสือในห้องเรียนที่ครูและนักเรียนได้ทำการเรียนการสอนแบบเห็นหน้ากันโดยตรงก็น่าจะส่งผลดีต่อเด็กได้มากกว่าการเรียนผ่านหน้าจอทางออนไลน์

6. บริการเดลิเวอรีได้รับความนิยมมากขึ้น

บริการเดลิเวอรีกลายเป็นธุรกิจที่มาแรงที่สุดในเวลานี้ โดยเฉพาะการเดลิเวอรีอาหารและเครื่องดื่ม เพราะผู้คนต่างหลีกเลี่ยงการออกไปรับประทานอาหารกันนอกบ้าน รวมไปถึงในอนาคตการรับประทานอาหารร่วมกันนอกบ้านน่าจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากขึ้น บริการเดลิเวอรีจึงทำงานหนักไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งเดลิเวอรีน่าจะเป็น New Normal ในสังคมไทยและกลายเป็นสิ่งจำเป็นของแต่ละครอบครัวไปเสียแล้ว

ถึงแม้ว่า New Normal ในครั้งนี้จะทำให้วิถีชีวิตของเราดูยุ่งยากมากขึ้น แต่ก็ถือเป็นวิถีชีวิตที่ช่วยให้เราปลอดภัยจากโรคร้ายอย่างโควิด-19 ได้อย่างแน่นอน และเมื่อวิกฤตนี้ผ่านไป คำๆ นี้ก็คงจะกลายเป็นเพียงการใช้ชีวิตปกติของเราที่ปลอดภัยจากทุกโรคภัยได้อย่างแน่นอน

ข้อมูลอ้างอิง