Work from Home การทำงานที่บ้าน ทำอย่างไรให้เวิร์คมากที่สุด!

772
Work from Home การทำงานที่บ้าน

ด้วยสถานการณ์โรคโควิด-19 (COVID-19) ที่เริ่มรุนแรงและส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทำให้เกิดมาตรการ Social Distancing หรือ “การเว้นระยะห่างทางสังคม” เพื่อชะลอการแพร่ระบาดของโรคให้น้อยลง หลายบริษัทจึงต้องนำแนวทาง Work from Home หรือ “การทำงานที่บ้าน” มาใช้กับการทำงาน เพื่อให้งานยังเดินหน้าต่อไปได้และพนักงานทุกคนก็ปลอดภัยจากเชื้อไวรัสชนิดนี้ด้วย วันนี้เราจึงมีคำแนะนำในการ Work from Home ให้มีประสิทธิภาพมาฝากกัน

วิธี Work from Home ให้มีประสิทธิภาพ

1. อย่าลืมว่า Work from Home ไม่ใช่วันหยุดพักผ่อน

Work from Home หรือที่หลายๆ คนเขียนกันย่อๆ ว่า WFH” นั้นมีสิ่งที่สำคัญคือ เราต้องห้ามลืมเด็ดขาดว่านี่คือการทำงานที่บ้าน ไม่ใช่วันหยุดพักผ่อน ถึงแม้ว่าตัวเราจะอยู่ที่บ้าน แต่เราก็ต้องเตรียมกายและใจให้พร้อมสำหรับการทำงานเหมือนเวลาปกติที่เดินทางไปทำงานออฟฟิศ

การลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวให้เหมือนวันไปทำงานก็จะช่วยเพิ่มความสดชื่นในยามเช้า คงจะดีกว่าการใส่ชุดนอนตลอดทั้งวัน เพราะนอกจากจะทำให้รู้สึกไม่กะปรี้กะเปร่าแล้วยังทำให้รู้สึกอยากนอนทั้งวันด้วย และเมื่อถึงเวลาเลิกงานเราก็ควรเก็บอุปกรณ์และเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอนหรือชุดสบายๆ เพื่อเตือนตัวเองว่าถึงเวลาพักผ่อนแล้ว

2. สร้างบรรยากาศที่บ้านให้เหมือนออฟฟิศ

การทำงานที่บ้านอาจเป็นความฝันของใครหลายคน เพราะจะนั่งทำตรงไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็นที่ห้องนอน ห้องนั่งเล่นหรือระเบียงบ้าน แต่ที่จริงแล้วบ้านกลับมีสิ่งต่างๆ ชวนให้เราไม่อยากทำงานอยู่เยอะมาก ดังนั้นเราจึงควรจัดที่นั่งในบ้านให้เป็นที่ทำงานอย่างจริงจังให้เหมือนกับเวลาอยู่ที่ออฟฟิศ และแยกออกจากพื้นที่พักผ่อนจะช่วยให้เรามีสมาธิทำงานได้อย่างเต็มที่ โดยสถานที่ที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุดคือการทำงานในห้องนอนหรือบนที่นอนเพราะจะทำให้เราอยากนอนอยู่ตลอดเวลานั่นเอง

นอกจากการจัดเตรียมที่นั่งทำงานให้เหมือนกับที่ออฟฟิศ เราก็ควรเตรียมพื้นที่สำหรับการพูดคุย ประสานงานกับทีม หรือ Conference Call เราจึงควรหามุมสงบไว้สำหรับติดต่อสื่อสาร ช่วยให้เราคุยงานได้โดยไม่มีสิ่งรบกวนจากภายนอกและมีความเป็นส่วนตัวมากพอจะคุยงานได้อย่างเต็มที่

3. เตรียมเครื่องมือให้พร้อม จัดรูปแบบการสื่อสารให้ดี

หลังจากเตรียมตัวเตรียมใจและสถานที่แล้ว ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการ Work from Home คือ อุปกรณ์ที่ใช้ทำงานไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ค และระบบอินเทอร์เน็ตที่ต้องพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้การทำงานราบรื่น และควรอัปโหลดไฟล์งานเอกสารไว้ให้พร้อม เราอาจใช้บริการ Cloud Storage เช่น iCloud, Google Drive, Dropbox เพื่อเข้าถึงไฟล์งานได้สะดวกและช่วยให้ทุกคนในทีมสามารถเข้าถึงไฟล์งานได้ทันทีแม้จะอยู่ที่บ้าน

นอกจากการเตรียมไฟล์งานให้พร้อมแล้ว การทำงานที่บ้านอาจทำให้เราสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานได้ไม่เต็มที่เท่ากับการพูดคุยกันต่อหน้า ดังนั้นเราจึงควรสื่อสารกับทีมหรือเพื่อนร่วมงานให้มากกว่าปกติ และสื่อสารด้วยความชัดเจน รวมทั้งคอยอัปเดตงานเพื่อให้หัวหน้าและเพื่อนในทีมทราบความคืบหน้า ทั้งจำนวนงานที่กำลังทำและการจัดการงานง่ายขึ้น นอกจากนี้ก็อย่าลืมทดลองระบบต่างๆ ในแอปพลิเคชันที่จะใช้สื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน ยกตัวอย่างเช่น Microsoft Teams, Zoom, Slack, Google Hangout เมื่อถึงคราวใช้จริงจะได้พูดคุยได้อย่างราบรื่น

4. กำหนดตารางการทำงานให้ชัดเจน อย่าลืมพักเบรก

ด้วยความอิสระในการทำงานที่บ้านทำให้เราจำเป็นต้องกำหนดเวลาทำงานให้ชัดเจนเพราะบรรยากาศการทำงานที่บ้านจะเหมือนเดิมทั้งวันจนทำให้เราอาจหลงลืมเวลาพักไป อีกทั้งที่บ้านก็ไม่มีเพื่อนร่วมงานให้พูดคุยทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวได้ไม่น้อย ดังนั้นเราจึงควรกำหนดเวลาทำงานและเวลาพักให้ชัดเจน เช่น ตอนเที่ยงและบ่ายสามโมง เพื่อให้ร่างกายและสมองได้มีเวลาพักผ่อน

นอกจากนี้ การทำอะไรซ้ำเดิมตลอดทั้งวัน ทั้งการนั่งทำงานและจ้องหน้าจอก็ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพเท่าไรนัก โดยปกติเมื่ออยู่ที่ทำงานเรายังมีเวลาลุกไปคุยกับเพื่อนที่โต๊ะอื่นหรือลุกไปซื้อกาแฟได้บ้าง ด้วยเหตุนี้แม้จะอยู่บ้าน เราก็ควรลุกจากเก้าอี้ไปทำอย่างอื่นเหมือนเวลาอยู่ที่ออฟฟิศด้วยเช่นกัน

5. เปลี่ยนเวลาเดินทางให้มีประโยชน์กว่าเดิม

อีกหนึ่งข้อดีของการ Work from Home คือเราไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง โดยเฉพาะคนที่บ้านอยู่ไกลจากที่ทำงานและต้องใช้เวลานานในการเดินทาง เมื่อได้ทำงานที่บ้านก็เท่ากับว่าเราได้พักผ่อนมากกว่าเดิม มีเวลาให้กับตัวเองและครอบครัวมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญคือต้องพูดคุยกับคนที่บ้านให้เข้าใจด้วยว่าเราต้องทำงานในช่วงเวลาใด เพื่อให้เรามีสมาธิอยู่กับการทำงานได้มากที่สุดซึ่งจะช่วยให้การทำงานที่บ้านมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก

เวลาที่มากขึ้นนี้ยังช่วยให้เรามีเวลาพัฒนาตัวเอง อ่านหนังสือ ทำกิจกรรมในกับคนในครอบครัว และยังช่วยให้หลายคนมีโอกาสจัดบ้านให้เหมาะสมกับการอยู่ทั้งวันได้อีกด้วย การ Work from Home ยังอาจสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้เราแบบที่การทำงานในออฟฟิศทำไม่ได้ด้วย

การทำงานที่บ้านอาจเป็นเรื่องที่หลายคนยังต้องปรับตัวอยู่มาก วิธีการเตรียมตัว Work from Home ที่เรานำมาแนะนำวันนี้ก็อาจจะช่วยให้หลายคนทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นแม้จะต้องอยู่ที่บ้าน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออย่าลืมรักษาสุขภาพและดูแลเรื่องงานเพื่อให้ผ่านวิกฤตโควิด-19 นี้ไปด้วยกัน