ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีแดดร้อนจัด การทำกิจกรรมกลางแจ้งจึงไม่เป็นที่นิยมนัก แต่ใช่ว่าเมื่ออยู่ในอาคารแล้วจะปลอดภัยจากอันตรายจากแสงแดด โดยเฉพาะอาคารที่ติดกระจกบานใหญ่และรับแสงได้มาก ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงทั้งความร้อน แสงจ้า และรังสียูวี การติดฟิล์มอาคารเป็นตัวช่วยที่ดีทีเดียว
อันตรายจากแสงแดดมีอะไรบ้าง?
แสงแดดมีประโยชน์คือมีวิตามิน D ช่วยในการเสริมสร้างกระดูกและดูดซึมแคลเซียม ทั้งยังช่วยให้จิตใจปลอดโปร่ง ลดอาการซึมเศร้า แต่การรับแสงแดดที่ดีควรรับเป็นแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้าและช่วงเย็นครั้งละไม่เกิน 15 นาที เพราะแดดในประเทศไทยมีความร้อนจัด และตัวการในแดดที่ก่อให้เกิดอันตรายก็คือ รังสียูวี (UV) ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ ดังนี้
- ทำให้ผิวไหม้ เพราะรังสียูวีทำลายเซลล์ผิวหนัง
- เป็นตัวการทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง
- อาการของโรคผิวหนังกำเริบได้ เช่น โรคลมพิษจากแสงแดด โรคเอสแอลอี เป็นต้น
- ทำให้แก่ก่อนวัยอันควร เพราะแสงแดดทำลายคอลลาเจนที่ทำให้ผิวยืดหยุ่น ผิวจึงเหี่ยวย่น เกิดริ้วรอย หมองคล้ำ และจุดด่างดำ
- ทำให้เกิดกระและฝ้าที่รักษายาก เนื่องจากแสงแดดกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินซึ่งเป็นสาเหตุของกระและฝ้า
- อันตรายต่อกระจกตา เช่น กระจกตาอักเสบ น้ำตาไหล แพ้แสง และอาจทำให้เกิดต้อเนื้อ ต้อลม ต้อกระจกได้ด้วย
ฟิล์มอาคารช่วยป้องกันอันตรายจากแสงแดดได้อย่างไร?
ฟิล์มอาคารหรือฟิล์มกรองแสง เป็นฟิล์มที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศเป็นอย่างดี เพราะผลิตจากพลาสติกโพลีเอสเตอร์ที่มีความเหนียว ยืดหยุ่นน้อย ไม่ดูดความชื้น ซึ่งคุณสมบัติการกรองแสงของฟิล์มอาคาร ประกอบด้วยปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- ค่าแสงส่องผ่าน หรือ Visible Light Trasmittance (VLT) คือ ถ้าแสงส่องได้มาก ก็จะทำให้ภายในอาคารสว่างมา
- การสะท้อนของแสง หรือ Visible Light Reflectance (VLR) คือ ถ้าสะท้อนได้มาก ก็ยิ่งลดความร้อนได้ดี
- การป้องกันความร้อน หรือ Infrared Light Rejection (IR) คือ การป้องกันรังสีอินฟราเรด ถ้าป้องกันได้มาก ก็จะลดความร้อนได้ดี
- การลดรังสียูวี หรือ UV Rejection โดยส่วนใหญ่แล้วฟิล์มทุกชนิดจะป้องกันรังสียูวีได้ถึง 99%
จะเห็นได้ว่าฟิล์มกรองแสงส่วนใหญ่มีคุณสมบัติช่วยลดรังสียูวีที่เป็นตัวก่ออันตรายในแสงแดดอยู่แล้ว ส่วนปัจจัยอื่นๆ ก็มีผลต่อการป้องกันอันตรายแตกต่างกันไป อย่าง ค่า VLT ที่ช่วยลดความสว่าง ก็จะช่วยลดแสงจ้า ที่ทำให้เกิดความระคายเคืองตา และอันตรายต่อดวงตา ส่วนค่า IR ที่ป้องกันรังสีอินฟราเรด ก็จะลดความรู้สึกแสบร้อนจากแดดได้
ในส่วนของคุณสมบัติกันความร้อนของฟิล์มอาคาร คนทั่วไปอาจเข้าใจผิดว่ายิ่งฟิล์มทึบ ก็ยิ่งกันความร้อนได้ดี แท้จริงแล้วต้องดูที่ค่า IR ด้วย เพราะความร้อนครึ่งหนึ่งจะอยู่ในแสงแดด ส่วนอีกครึ่งหนึ่งจะอยู่ในรังสีอินฟราเรด ส่วนอีกไม่ถึง 5% อยู่ในรังสียูวี ซึ่งฟิล์มอาคารส่วนใหญ่นั้นกันรังยูวีอยู่แล้ว ทำให้ความร้อนจากยูวีแทบไม่มีผล ดังนั้นการเลือกฟิล์มจึงต้องดูให้ครบทุกองค์ประกอบ เพื่อให้ได้ฟิล์มที่เหมาะสมกับความต้องการ