สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่งของโลก มีประชากรกว่า 313 คน จึงมีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมมาก เป็นประเทศที่มีความเจริญ เทคโนโลยีทันสมัย มีหลายเมืองที่เป็นแหล่งศูนย์รวมความบันเทิง ทั้งภาพยนตร์ โรงละคร สวนสนุก พิพิธภัณฑ์ งานศิลปะต่างๆ ขณะเดียวกันก็มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ใหญ่และสวยงามติดอันดับโลกเช่นกัน แต่ละเมืองก็มีสภาพแวดล้อม ภูมิอากาศ เอกลักษณ์และวัฒนธรรมแตกต่างกันค่อนข้างมาก ซึ่งเมืองน่าเที่ยวในสหรัฐอเมริกา ก็มีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวที่ต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง
เมืองน่าเที่ยวในสหรัฐอเมริกา
1. ลาสเวกัส (Las Vegas) รัฐเนวาดา (Nevada)
หลายคนรู้จักเมืองลาสเวกัสจากภาพยนตร์ และมักจะรู้จักในฐานะแหล่งคาสิโน จนมีชื่อเล่นว่า “เมืองแห่งบาป” หรือ “Sin City” ซึ่งเมืองลาสเวกัสนั้นแม้ตั้งอยู่กลางทะเลทราย แต่เต็มไปด้วยคาสิโน รีสอร์ท โรงแรมระดับห้าดาว ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่คอยรองรองรับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก และมีโชว์สุดอลังการหลากหลายแบบที่ทำให้ลาสเวกัสเป็นศูนย์รวมความบันเทิง เช่น โชว์กายกรรมจากเซิร์คดูโซเลย์ โชว์มายากลของคริส แองเจิล
นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น เขื่อนฮูเวอร์ที่เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำภาพยนตร์อย่างทรานฟอร์เมอร์และซูเปอร์แมน, หน้าผาหินแดงเร้ดร็อค หรือถ้าใครอยากเที่ยวพิพิธภัณฑ์ ก็มีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมันดาเลย์ และพิพิธภัณฑ์ป้ายไฟนีออนมิวเซียมรอให้ไปเยี่ยมชม
2. ออร์ลันโด (Orlando) รัฐฟลอริดา (Florida)
เมืองออร์ลันโดตั้งอยู่ทางตอนกลางของรัฐฟลอริดา เป็นเมืองแห่งความสุขและความบันเทิง เพราะเป็นที่ตั้งของสวนสนุกขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอย่างวอลต์ดิสนีย์เวิลด์ ที่มีขนาดใหญ่มากจนควรลิสต์เครื่องเล่นที่อยากเล่นก่อนจะมาเพราะอาจจะเดินได้ไม่ครบ โดยในสวนสนุกแบ่งได้เป็น 4 ส่วน คือ เมจิกคิงดอม, เอ็ปคอต, ดิสนีย์ฮอลลีวูดสตูดิโอส์ และดิสนีย์แอนิมอลคิงดอม
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีสวนสนุกอีกแห่งคือยูนิเวอร์แซลออร์ลันโด ที่เหมาะสำหรับแฟนๆ แฮร์รี่ พอตเตอร์ เพราะข้างในมีหมู่บ้านฮอกส์มีด และตรอกไดแอกอน ที่ทำให้ผู้เข้าชมรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในจักรวาลแฮร์รี่ พอตเตอร์ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจในออร์ลันโดเช่น ศูนย์อวกาศเคนนาดีขององค์การนาซา, เลโก้แลนด์ จึงเรียกได้เต็มปากว่าเป็นเมืองแห่งศูนย์รวมความสุขและสนุกสนานจริงๆ
3. ซานฟรานซิสโก (San Francisco) รัฐแคลิฟอร์เนีย (California)
เมืองซานฟรานซิสโกเป็นเมืองริมอ่าวที่สวยงามและเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสวยงามมากมาย และสถานที่ห้ามพลาดคือสะพานโกลเดนเกตที่เป็นสะพานแขวนสีแดงขนาดใหญ่ สัญลักษณ์ของเมืองนี้ เรียกได้ว่าใครมาซานฟรานซิสโกแล้วไม่มาถ่ายรูปคู่กับโกลเดนเกต อาจโดนแซวว่ามาไม่ถึงเลยทีเดียว
หลังจากถ่ายรูปกับสะพานโกลเดนเกตแล้ว สามารถเดินเล่นที่ถนนลอมบาร์ดที่บ้านเรือนสองข้างทางตกแต่งเป็นสไตล์วิคตอเรีย ต่อด้วยหาอาหารรับประทานที่ท่าเรือ 39 พร้อมกับชมแมวน้ำนอนอาบแดด นอกจากนั้นยังสามารถเยี่ยมชมวังแห่งศิลปะ ย่านไชน่าทาวน์ หรือจะนั่งรถรางชมเมืองก็ชิวไปอีกแบบ
4. เมืองโฮโนลูลู (Honolulu) รัฐฮาวาย (Hawaii)
สำหรับเมืองโฮโนลูลู ชื่อเมืองอาจไม่คุ้นหู แต่ถ้าพูดถึงรัฐฮาวายที่เป็นที่ตั้งของเมืองโฮโนลูลู หลายคนคงร้องอ๋ออย่างรวดเร็ว และจินตนาการถึงหาดทรายสีขาว น้ำทะเลสีสวย ผู้คนแต่งตัวสีสันสดใสใส่เสื้อสไตล์ฮาวาย ทำให้โฮโนลูลูเป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมของอเมริกา สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือหาดไวกีกิ เราจะเห็นหาดทรายขาวและนักเล่นกระดานโต้คลื่นมาประชันฝีมือกันอย่างสนุกสนาน, เกาะโอฮาฮูที่มีกิจกรรมมากมาย เช่น ทัวร์ดำน้ำกับฉลาม ดำน้ำดูปลากระเบนตอนกลางคืน, เกาะเมาอิที่มีภูเขาไฟอยู่ถึงสองลูก มีอุทยานชายฝั่งคิปาฮูลูและน้ำตกไวโมกู กระทั่งเกาะคาไว
ถ้าใครอยากเที่ยวชมสถาปัตยกรรมสวยๆ ก็สามารถไปได้ที่พระราชวังเก่าอิโอลานีที่เป็นเครื่องหมายของสถาปัตยกรรมแบบฮาวาย ซึ่งเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมตั้งแต่ปี 1978 และถ้าอยากเรียนรู้ประวัติศาสตร์เพิ่มเติมก็สามารถไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์การบินแปซิฟิกเพิร์ลฮาเบอร์ ซึ่งจัดแสดงโรงเก็บเครื่องบินและความเสียหายจากการโจมตีท่าเรือเพิร์ลฮาร์เบอร์
5. เมืองอุทยานแห่งชาติสหรัฐอเมริกา รัฐไวโอมิง (Wyoming)
รัฐไวโอมิงมีอุทยานที่งดงามหลายแห่ง ที่เรารู้จักกันดี เช่น อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน เป็นอุทยานที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ กินพื้นที่ราว 2 ล้านเอเคอร์ ประกอบด้วยที่ราบสูง แกรนด์แคนยอนที่เป็นผาหินที่ยุบตัวลงมา บ่อน้ำพุร้อนหลากสี น้ำตก ทะเลสาบเยลโลว์สโตน สัตว์ป่าและพันธุ์ไม้ อุทยานแห่งชาติแกรนด์เทตันที่อุดมไปด้วยป่าไม้ ยอดเขาสูง ทะเลสาบใสราวกระจกเงาสวยจับใจ
นอกจากอุทยานแห่งชาติแล้ว ยังสามารถไปเยี่ยมชมอนุสาวรีย์แห่งชาติเดวิลส์ทาวเวอร์ เป็นภูเขาหินอัคนีที่เกิดจากการดันตัวขึ้นมาของภูเขาไฟแล้วถูกกัดกร่อน ทำให้มีรูปทรงประหลาด ซึ่งที่นี่เป็นอนุสาวรีย์สถานแห่งแรกของสหรัฐอเมริกาด้วย
6. ลอสแอนเจลิส (Los Angeles) รัฐแคลิฟอร์เนีย (California)
เมืองลอสแอนเจลิส เรียกย่อๆ ว่า “แอลเอ (LA)” เมืองอันเป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมหนังฮอลลีวูด เต็มไปด้วยสตูดิโอ โรงถ่ายภาพยนตร์มากมาย เช่น พาราเมาต์สตูดิโอ เป็นต้น และยังมีย่านฮอลลีวู้ดที่มีถนนฮอลลีวูดวอล์กออฟเฟม พื้นถนนเป็นหินอ่อนรูปดาวพร้อมจารึกชื่อบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงของสหรัฐอเมริกา เป็นที่ตั้งของโรงละครจีนสถานที่จัดงานออสการ์ รวมทั้งยังเป็นแหล่งรวมสวนสนุก เช่น ดิสนีย์แลนด์, ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ ฮอลลีวูด
ใครที่อยากสำรวจแหล่งที่อยู่อาศัยของคนดังก็สามารถไปเดินเล่นที่ย่านเบเวอร์รี่ฮิลส์ โดยบ้านแต่ละหลังก็จะมีความใหญ่โตสมฐานะ หรือหากต้องการช็อปปิ้งก็สามารถไปที่โรดิโอไดร์ฟ ปิดท้ายด้วยเดินเล่นชายหาดซานตาโมนิกา หาดเวนิส หรือจะหาดมาลิบูก็เลือกได้เลยตามใจชอบ
7. นครนิวยอร์ก (New York City) รัฐนิวยอร์ก (New York)
พูดถึงมหานครนิวยอร์ก ใครๆ ก็รู้ว่านี่คือเมืองที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้า ยามค่ำคืนไม่เคยหลับใหลด้วยแสงสีตระการตา อุดมด้วยแหล่งช็อปปิ้งทั้งแบบราคาถูกและแพงระยับ เช่น ย่านโซโห และฟิฟธ์อเวนิว ร้านอาหารอันหลากหลายจากนานาชาติ โรงละครบรอดเวย์ พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ แต่ก็ไม่ขาดเซ็นทรัลปาร์ค สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เป็นปอดของเมืองขนาดใหญ่
พูดถึงความหวือหวาของนิวยอร์กไปแล้ว ขอแนะนำแลนด์มาร์กที่ห้ามพลาดหากมาที่เมืองนี้ นั่นคือเทพีเสรีภาพ ตั้งอยู่ที่อ่าวแมนแฮตตัน, สะพานบรู๊กลินที่เป็นสะพานแขวนเก่าแก่, ไทม์สแควร์ที่เป็นจุดตัดถนนบรอดเวย์กับถนนเซเวนท์อเวนิว ทำให้สามารถมองเห็นตึกระฟ้าได้อย่างรอบด้าน เป็นเมืองที่น่าตื่นตาตื่นใจไปทุกด้าน ใครมาเที่ยวคงได้ถ่ายรูปอันน่าสนใจของมหานครนิวยอร์กได้หลากหลายมุมทีเดียว
จะเห็นได้ว่าสหรัฐอเมริกาเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายแบบมากทีเดียว ทั้งเมืองที่เต็มไปด้วยความหรูหรา ตึกสูงระฟ้า เมืองที่เต็มไปด้วยศูนย์รวมความบันเทิงอย่างสวนสนุก ย่านฮอลลีวู้ด โรงละคร เมืองที่มีชายหาดสวยงามน่าพักผ่อนหย่อนใจ ไปจนถึงเมืองที่เปี่ยมไปด้วยความงดงามทางธรรมชาติ ใครที่กำลังหาที่เที่ยวในต่างประเทศ สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม
