การทำ Vaser เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสลายไขมันเฉพาะจุด เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกิน รูปร่างไม่สมสัดส่วน ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นคนอ้วนเสมอไป คนผอมแต่มีไขมันสะสมก็สามารถทำได้เพื่อให้หุ่นกระชับ สมส่วนมากขึ้น บริเวณที่นิยมทำเช่น ต้นแขน ต้นขา สะโพก หน้าท้อง เป็นต้น
Vaser คืออะไร?
Vaser คือ เทคโนโลยีการดูดไขมันที่ช่วยขจัดไขมันเฉพาะจุดได้อย่างรวดเร็วทันใจ โดยใช้การปล่อยพลังงานคลื่นเสียง หรือ Ultrasound เข้าไปในชั้นผิวหนัง เพื่อสลายเซลล์ไขมันให้กลายเป็นของเหลวหรือน้ำมัน แล้วดูดออกมาผ่านท่อขนาดเพียง 2-3 มิลลิเมตร ซึ่งระหว่างทำจะมีการเติมน้ำเกลือและยาชาทำให้ไม่รู้สึกเจ็บขณะดูดไขมัน การดูดไขมันแบบ Vaser จะทำให้เกิดรอยช้ำเพียงเล็กน้อย และเซลล์ประสาทบริเวณรอบๆ ก้อนไขมันไม่เกิดความเสียหาย ทำให้ไม่เกิดความบวมช้ำ ผิวหลังทำมีความเรียบ ไม่เป็นก้อน
Vaser รักษาอะไรได้บ้าง?
การทำ Vaser สามารถทำได้กับแทบทุกส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง สะโพก เข่า ต้นขา ขาอ่อน ท้องแขน หลัง คอ และบริเวณคาง
การดูแลหลังทำ Vaser
- ควรงดอาบน้ำในวันแรก วันถัดมาให้ติดพลาสเตอร์กันน้ำที่แผลระหว่างอาบน้ำทุกครั้ง
- งดการออกกำลังกายหนักๆ เพื่อไม่ให้แผลเปิดเป็นเวลา 2 สัปดาห์
- สวมผ้ายืดรัดบริเวณที่ทำ Vaser ตลอดจนกว่าจะไม่มีน้ำซึมออกจากแผล
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- ไม่รับประทานของดอง ของเค็ม งดสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 2 สัปดาห์
ข้อควรรู้เกี่ยวกับ Vaser
1. การพักฟื้น
หลังทำ Vaser สามารถไปทำงานต่อได้ภายใน 3-7 วัน ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน แต่ต้องงดการออกกำลังกายหนักๆ เป็นเวลา 2 สัปดาห์
2. ระยะเวลาในการรักษา
การทำ Vaser ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงต่อ 1 จุด
การทำ Vaser เป็นตัวช่วยชั้นเยี่ยมในการลดไขมันเฉพาะจุด แต่การดูดไขมันอาจมีผลข้างเคียงคือผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ซึ่งต้องค่อยๆ รักษาตามหลังการดูดไขมัน หากใครกังวลเรื่องความหย่อนคล้อยก็สามารถเลือกเทคโนโลยี Body Tite ที่สามารถปล่อยคลื่น RF (Radio Frequency) เพื่อกระชับผิวไปได้ในคราวเดียวกันก็ได้