ประโยชน์ของเครื่องดื่มชูกำลัง (Energy Drink)…ดื่มอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ?

สำหรับคนที่ทำงานหนัก อดหลับอดนอน ตัวช่วยอีกอย่างนอกจากกาแฟจะเป็นอะไรไม่ได้เลยนอกจากเครื่องดื่มชูกำลัง (Energy Drink) เพราะทำให้มีแรงและกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น มีสมาธิจดจ่ออยู่กับงานมากขึ้น แต่ว่าการดื่มเครื่องดื่มชูกำลังก็ต้องอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่อย่างนั้นอาจเกิดผลเสียต่อร่างกายได้

ประโยชน์ของเครื่องดื่มชูกำลัง

1. กระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยให้มีสมาธิจดจ่อในงานที่ทำมากขึ้น รวมถึงมีความจำที่ดีขึ้นด้วย
2. เพิ่มสมรรถภาพร่างกาย มีกำลังในการทำงานมากขึ้น
3. ไม่ง่วงนอน ทำให้สมองรู้สึกตื่นตัว ทำงานได้ยาวนานขึ้น

การดื่มเครื่องดื่มชูกำลังให้ได้ประโยชน์

• ไม่ควรดื่มเกินวันละ 450 มิลลิลิตร
• ดื่มเมื่อจำเป็นเท่านั้น เพื่อให้ร่างกายจดจ่อกับงานได้มากขึ้น

ข้อควรระวังในการดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง

• เด็ก สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตรไม่ควรดื่ม
• ห้ามดื่มเพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำจากร่างกายเหมือนเครื่องดื่มเกลือแร่
• เครื่องดื่มชูกำลังมีคาเฟอีน ดังนั้นไม่ควรดื่มติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้ติดคาเฟอีนได้
• ไม่ควรดื่มก่อนนอน เพราะจะทำให้นอนไม่หลับ
• เครื่องดื่มชูกำลังมีน้ำตาลมาก ผู้ป่วยเบาหวาน หรือเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานไม่ควรดื่ม
• ไม่ควรผสมเครื่องดื่มชูกำลังกับแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้เมาช้า แล้วจะดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากขึ้น อาจเกิดอันตรายกับร่างกายได้
• ดื่มในปริมาณมากอาจมีปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น ฟันผุ
• เมื่อหยุดดื่มอาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย หงุดหงิด เพราะเป็นผลจากการติดคาเฟอีน

การดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเป็นเหมือนการเพิ่มพลังชั่วคราวให้กับร่างกาย เพื่อจัดการกับงานในช่วงเวลาที่ร่างกายอ่อนล้า อย่างไรก็ตามการดื่มเป็นปริมาณมากหรือติดกันเป็นประจำก็จะส่งผลเสียกับร่างกาย ดังนั้นไม่ควรทำงานหักโหมเกินไปจะดีกว่า