“ค่าไฟแพง” ปัญหาที่มาพร้อมอากาศร้อนระอุในฤดูร้อนของประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนจัดทำให้หลายบ้านทนไม่ไหวต้องเปิดแอร์แทบจะทั้งวัน พอถึงเวลาบิลค่าไฟมาถึงบ้านก็ต้องแทบลมจับ ไม่รู้ว่าเพราะอากาศร้อนหรือเพราะตัวเลขค่าไฟที่ได้รับกันแน่ วันนี้จึงมี 10 วิธีคลายร้อนที่บ้าน รับมือหน้าร้อนแบบประหยัดค่าไฟ ให้อยู่สบาย หลับสบาย มาช่วยแก้ปัญหาอากาศร้อนให้กับทุกคนกัน
วิธีคลายร้อนที่บ้านแบบประหยัดค่าไฟ
1. แป้งเย็นและสเปรย์เย็น ตัวช่วยสุดฮิตช่วงหน้าร้อน
การทาแป้งเย็นเป็นวิธีคลายร้อนที่ได้ผลมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ แถมยังมีราคาไม่แพง โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทาแป้งเย็นคงหนีไม่พ้นหลังอาบน้ำเสร็จ โดยเช็ดตัวให้หมาดๆ ไม่ต้องแห้งมากแล้วนำแป้งเย็นทาลงบนจุดที่ต้องการ เช่น รักแร้ แผ่นหลัง เท่านี้ก็เย็นสบายตัวสุดๆ แล้ว หรือจะใช้สเปรย์เย็นที่เป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับหน้าร้อนในยุคนี้ก็ช่วยคลายความร้อนได้ดี เพียงฉีดพ่นลงบนเสื้อผ้าหรือร่างกาย แต่อาจเป็นผลิตภัณฑ์ที่หาได้ค่อนข้างยากและมีราคาสูงแต่หากใครมีไว้ก็ช่วยคลายร้อนได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
2. คลายร้อนด้วยผ้าเย็นหรือทิชชู่เปียกแบบเย็น
ผ้าเย็นเป็นวิธีคลายร้อนที่ทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้านเพียงนำผ้าชุบน้ำแล้วแช่ไว้ในตู้เย็นก็นำมาเช็ดหน้าคลายร้อนได้เป็นอย่างดี แต่อีกหนึ่งนวัตกรรมใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาคือ ทิชชู่เปียกแบบเย็น ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานง่ายเหมือนทิชชู่เปียกทั่วไปแต่เมื่อนำมาเช็ดบริเวณต่างๆ ของร่าง เช่น แขน ขาหรือลำตัว ก็จะให้ความรู้สึกเย็นสดชื่น แถมยังพกพาได้สะดวกและปัจจุบันก็มีทิชชู่เปียกแบบเย็นให้เลือกหลากหลายยี่ห้อหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป
3. อาบน้ำลดอุณหภูมิร่างกาย
การอาบน้ำระหว่างวันเป็นวิธีที่ช่วยคลายร้อนได้เป็นอย่างดี ด้วยอากาศร้อนจัดระหว่างวันการอาบน้ำคงช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายได้มากแถมยังช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นได้อีกด้วย หรือใครไม่อยากอาบน้ำจะใช้วิธีแช่มือ – เท้า ในน้ำเย็นหรือใช้น้ำลูบตามต้นคอก็ช่วยให้ร่างกายคลายความร้อนออกมาได้ด้วยเช่นกัน
4. ดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากการบรรเทาความร้อนภายนอกร่างกายแล้วภายในร่างกายก็ลดอุณหภูมิลงด้วยเช่นกัน การดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอตลอดวัน เป็นวิธีที่ช่วยคลายความร้อนในร่างกาย ทดแทนการเสียน้ำจากเหงื่อและช่วยป้องกันอันตรายที่เกิดจากความร้อนที่สะสมในร่างกายอย่างอาการฮีทสโตรกได้อีกด้วย
5. ดื่มสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น
สมุนไพรไทยหลายชนิดนำมาต้มเป็นน้ำสมุนไพรช่วยดับกระหายและช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ดอกเก๊กฮวย มะตูม หล่อฮังก้วยและมะขามป้อม หรือจะรับประทานสมุนไพรแบบแคปซูล เช่น ฟ้าทะลายโจร ก็หาซื้อง่าย รับประทานได้ง่ายและช่วยลดความร้อนในร่างกายได้เช่นกัน
6. ดับร้อนด้วยไอศกรีมหรือน้ำหวานเย็นๆ
อากาศร้อนแบบนี้ได้ไอศกรีมหวานๆ เย็นๆ สักถ้วยคงจะเย็นชื่นใจไม่น้อยหรือจะดื่มน้ำหวานดับกระหาย ก็ช่วยคลายความร้อนได้ดีเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำหวาน น้ำอัดลม หรือน้ำผลไม้ต่างๆ เช่น น้ำมะพร้าว น้ำแตงโม ก็เป็นตัวเลือกที่เข้ากับหน้าร้อนที่อุณหภูมิสูงจัด ถ้าได้ดื่มสักแก้วคงจะชื่นใจน่าดู
7. สวมใส่เสื้อผ้าให้เหมาะกับสภาพอากาศ
เหงื่อมักมาพร้อมกับอากาศที่ร้อนอบอ้าว เราจึงควรเลือกเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าบางเบาระบายอากาศได้ดีและควรใส่เสื้อผ้าที่มีทรงหลวมเพื่อให้รู้สึกสบายตัว นอกจากนี้ควรเลือกเสื้อผ้าที่มีสีอ่อนแทนเสื้อผ้าโทนสีเข้ม เพราะเสื้อผ้าโทนสีเข้มนั้นจะดูดซับความร้อนได้ดีกว่าจึงทำให้เรารู้สึกร้อนมากกว่าปกติและเมื่อออกไปยังที่กลางแจ้งก็ควรใส่แว่นกันแดดหรือหมวกเพื่อป้องกันความร้อนอีกด้วย
8. ลดการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายเครื่องพร้อมกัน
อีกวิธีลดความร้อนที่หลายคนมองข้ามคือการปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้านอกจากจะเพิ่มค่าไฟแล้วยังคายความร้อนทำให้ห้องร้อนกว่าเดิม โดยเฉพาะคนที่อยู่หอหากเปิดทีวี ตู้เย็น และคอมพิวเตอร์พร้อมกันก็จะรู้สึกร้อนมากกว่าปกติ ดังนั้นให้วันที่อากาศร้อนจัดควรปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กออกให้เรียบร้อย
9. เปิดประตูหน้าต่างระบายความร้อนบ้าง
แสงแดดจัดที่ส่งมายังตัวบ้านในเวลากลางวันทำให้บ้านกลายเป็นที่เก็บความร้อนชั้นดีจนเหมือนกับว่าเรานั่งอยู่ในเตาอบ ดังนั้นช่วงเวลาเย็นหรือกลางคืนหลังแสงแดดหมดแล้ว เปิดประตูหน้าต่างเพื่อระบายความร้อนและช่วยถ่ายเทอากาศก็จะช่วยให้บ้านเย็นขึ้นได้
10. หากิจกรรมคลายเครียด
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าความร้อนสามารถทำให้เกิดความเครียด รู้สึกหงุดหงิดหรือความรู้สึกอื่นๆ ที่ทำให้ร่างกายร้อนได้มากขึ้น ดังนั้นควรหากิจกรรมที่ช่วยลดความเครียด เช่น อ่านหนังสือ ว่ายน้ำหรือปลูกต้นไม้ ก็ได้ช่วยทั้งลดความเครียดและช่วยเพิ่มความร่มรื่นช่วยให้บ้านเย็นขึ้นได้อีกด้วย
เจออากาศร้อนระอุของหน้าร้อนนี้ก็อย่าลืมนำ 10 เคล็ดลับวิธีคลายร้อนที่บ้านรับมือหน้าร้อนแบบประหยัดค่าไฟ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดความร้อนได้ง่ายๆ แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายภายในบ้าน นอกจากนี้อย่าลืมสังเกตอาการที่มักมากับอากาศร้อนและส่งผลต่อสุขภาพ เช่น อาหารเป็นพิษ อาการขาดน้ำหรือเป็นลมแดด และอย่าลืมรักษาสุขภาพกายและสุขภาพจิตให้แข็งแรงอยู่เสมอ
