Filler (ฟิลเลอร์)…สารเติมเต็มร่องลึก ริ้วรอยแห่งวัย ตีนกา ร่องแก้ม ร่องปาก

479
การแต่งแก้ม

สาวๆ เมื่อมีอายุมากขึ้น ก็เริ่มมีปัญหาผิว ไม่ว่าจะริ้วรอย ตีนกา ร่องแก้ม ร่องปาก และปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย การแก้ปัญหาอย่างแรกๆ ที่นึกถึงก็คือการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าอย่างสกินแคร์ เช่น เซรั่ม ครีมทาหน้า สลีปปิ้งมาสก์ แต่เพราะใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล หรือบางทีก็แทบไม่เห็นผลเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นสาวๆ หลายคนจึงเลือกวิธีที่ทำให้ผิวหน้าสวยขึ้นแบบไม่ต้องรออย่างการฉีด Filler (ฟิลเลอร์)

Filler คืออะไร?

Filler (ฟิลเลอร์) คือ สารเติมเต็มสำหรับการแก้ปัญหาผิว วิธีการใช้คือฉีดเข้าไปยังจุดบกพร่องต่างๆ ของใบหน้า เช่น บริเวณริ้วรอย ใต้ตา ตีนกา ร่องแก้ม ร่องแก้ม คาง หน้าผาก เป็นต้น ทำให้ผิวอิ่มเอิบ เต่งตึงมีน้ำมีนวล แลดูอ่อนกว่าวัย โดยสารเติมเต็มคือสารที่เลียนแบบธรรมชาติ เป็นการช่วยเติมเส้นใยคอลลาเจนในผิว มีอยู่ 2 ประเภท คือ

  1. Temporary Filler (ฟิลเลอร์ชั่วคราว) เช่น สารไฮยาลูรอนที่สกัดจากธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูงและสามารถสลายตัวได้เอง อยู่ในผิวได้ประมาณ 4-6 เดือน
  2. Permanent Filler (ฟิลเลอร์ถาวร) เช่น เม็ดพลาสติก ซิลิโคน หรือน้ำมันพาราฟิน เป็น Filler ที่ไม่สามารถสลายตัวได้เอง แต่และไม่แนะนำให้ใช้ เพราะไม่สามารถระบุผลข้างเคียงที่ชัดเจนได้

ในการฉีด Filler แพทย์จะฉีดในส่วนที่ต้องการรักษาโดยใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที หลังจากนั้นจะให้ผู้รับการฉีดนอนราบสักครู่เพื่อให้ Filler เซ็ตตัว สามารถเห็นผลได้ทันที และเห็นผลชัดที่สุดประมาณวันที่ 5 หลังการฉีด

Filler รักษาอะไรได้บ้าง?  

การฉีด Filler จะช่วยลดร่องลึกบนใบหน้า เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา รอบมุมปาก หน้าผาก รวมไปถึงบริเวณที่ดูไม่เอิบอิ่ม เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม และสามารถปรับโครงหน้าให้ได้รูปตามต้องการ ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน อ่อนเยาว์ขึ้น และไม่มีแผลหลังทำ

การดูแลหลังฉีด Filler

  • หลังจากการฉีด ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด ทั้งการจับ ลูบ นวด เพราะอาจทำให้สาร Filler เคลื่อนตัวได้ แม้จะมีอาการคันหรือระคายเคืองก็ห้ามเกาเด็ดขาด
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด เผ็ดจัด และร้อนจัด อาหารหมักดอง อาหารดิบ แอลกอฮอล์ทุกชนิด และงดสูบบุหรี่ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ หรือถ้าไม่สามารถทำได้ ให้หลีกเลี่ยงเป็นเวลาอย่างน้อย 2 วัน
  • หลังจากการทำ บางรายอาจมีอาการปวดระบม ให้รับประทานยาแก้ปวด และยาลดบวมที่ทางคลินิกให้มา
  • หลีกเลี่ยงการโดนแดด ความร้อน และออกกำลังกายหนักๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 วัน เพราะความร้อนอาจส่งผลกระทบต่อ Filler ได้
  • งดอาหารเสริมบางชนิด เช่น กิงโกะ น้ำมันพริมโรส กระเทียม โสม และวิตามินอี
  • งดการใช้ครีมทาผิวที่มีกรดผลไม้เป็นส่วนประกอบ เช่น AHA, BHA และ Retinoids เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายกับผิวบริเวณที่ฉีด
  • งดการใช้ยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้
  • ไม่กำจัดขนบริเวณที่ฉีดประมาณ 2-3 วัน ไม่ว่าจะเป็นการแวกซ์ การถอน หรือการใช้ครีมกำจัดขน เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อ
  • ดื่มน้ำให้ได้วันละ 8-10 แก้ว หรือ 2 ลิตรต่อวัน เพราะจะช่วยให้ Filler ที่เป็นสารอุ้มน้ำสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น

ข้อควรรู้เกี่ยวกับ Filler

1. ผลลัพธ์

หลังจากฉีด จะสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันที และจะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนที่สุดในวันที่ 5

2. ความคงทน

การฉีดครั้งหนึ่ง จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว อายุ การดูแลผิว และการดำเนินชีวิตของแต่ละคน

3. ความปลอดภัย

Filler ที่ใช้สารเติมเต็มไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) เป็นสารที่ได้รับการรับรองจาก อย. ว่ามีความปลอดภัย จึงมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ทั้งนี้ต้องเลือกคลินิกและแพทย์ที่เชื่อถือได้ในการฉีดด้วย

4. ผู้ที่ห้ามฉีด Filler

สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก ห้ามฉีด Filler

การฉีด Filler (ฟิลเลอร์) ช่วยทำให้สาวๆ สวยขึ้นอย่างรวดเร็วทันใจ เมื่อ Filler สลายตัวก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ใหม่ ทำให้สวยได้อยู่เสมอ แต่ทั้งนี้ก็ควรดูแลและบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ต่างๆ รวมถึงรับประทานอาหารการกินที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อให้ผิวมีสุขภาพดีจากภายในด้วยนั่นเอง