เคล็ดลับการเต้นลดน้ำหนัก ลดความอ้วน…เต้นอย่างไรให้ผอม?

1274
การเต้นลดน้ำหนัก

ใครที่กำลังมองหาวิธีลดความอ้วนแบบไม่น่าเบื่อ มีสีสัน ทำได้เป็นกลุ่ม การเต้นลดน้ำหนักคือคำตอบ เพราะสามารถออกเต้นตามจังหวะเพลงเป็นการออกกำลังกายได้เลย ยิ่งเป็นสายแดนซ์ยิ่งต้องชอบ แต่การจะเต้นอย่างไรให้ผอมนั้นก็ต้องมีเคล็ดลับกันเสียหน่อย เพื่อให้การลดน้ำหนักเห็นผลชัดเจน มีหุ่นเพรียวสวย ยิ่งเต้นยิ่งเซ็กซี่นั่นเอง

เต้นอย่างไรให้ผอม?

การเต้น คือ การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออย่างหนึ่ง โดยเคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาประมาณ 20-30 นาทีขึ้นไป เพื่อให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น 50-75% ช่วยให้ระบบหลอดเลือดหัวใจแข็งแรง ส่งออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์กล้ามเนื้อได้มากขึ้นทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น และเผาผลาญไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการเต้นลดน้ำหนักให้ได้ผลนั้น ควรเต้นต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ หรือเต้น 60 นาทีต่อวัน 3 วันต่อสัปดาห์เป็นอย่างน้อย

เคล็ดลับการเต้นลดน้ำหนัก ลดความอ้วน

1. เลือกสไตล์การเต้นที่ชอบ

การเต้นมีหลายแบบ ทั้งการเต้นแอโรบิก (Aerobic) ที่ได้รับความนิยมในการออกกำลังกายมากที่สุด เพราะเป็นการนำกายบริหารมาเต้นประกอบเพลง การเต้นซุมบ้า (Zumba) ที่เป็นการเต้นที่ผสมผสานท่าเต้นแบบละติน-อเมริกา ระบำหน้าท้อง แอโรบิกและฮิปฮอปเข้าด้วยกัน และ การเต้นโคฟเวอร์ (Cover) ที่นำท่าเต้นในเพลงของศิลปินที่ชื่นชอบมาเต้นตามหรือดัดแปลงบ้าง ทำให้การออกกำลังกายสนุกสนานขึ้น

2. หาเพื่อนเต้นเป็นกลุ่ม

บางครั้งการเต้นออกกำลังกายเพียงคนเดียวก็ทำให้เกิดอาการเขินอาย ออกสเต็ปท่าเต้นไม่เต็มที่ ดังนั้นการหาเพื่อนไปเต้นออกกำลังกายด้วยกันก็ช่วยลดอาการเขินอาย แถมยังเพิ่มความสนุกในการออกกำลังกายได้มากขึ้น

3. ถ้าไม่มีเวลาให้เต้นตามโปรแกรม T25

การออกกำลังกายตามโปรแกรม T25 หรือชื่อเต็มว่า Focus T25 คือการเต้นบริหารร่างกายทุกส่วนอย่างหนักติดต่อกัน 25 นาทีโดยไม่หยุดพัก เป็นเวลา 5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งการออกกำลังกายแบบนี้มีผลเทียบเท่าการออกกำลังกายติดต่อกันเป็นเวลา 1 ชั่วโมงทีเดียว โดยการเต้นแบบ T25 จะแบ่งเป็น 3 เฟส คือ Alpha, Beta และ Gamma ซึ่งแต่ละเฟสจะเพิ่มความเข้มข้นในการออกกำลังกายมากขึ้นตามลำดับ

4. เต้นตอนเย็นดีกว่า

การออกกำลังกายในช่วงเย็นจะทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานดีกว่า เพราะอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าช่วงเช้า แต่ถ้าสะดวกช่วงเช้าก็ทำได้เหมือนกัน เพียงแต่ต้องเสียเวลาอบอุ่นร่างกายนานกว่านั่นเอง

ข้อควรระวังในการเต้น

1. อบอุ่นร่างกายก่อนเสมอ

การอบอุ่นร่างกายก่อนเต้นจะช่วยให้กล้ามเนื้ออยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการกล้ามเนื้อฉีกขาดได้ดี

2. อย่าลืมคูลดาวน์หลังเต้น

เต้นเสร็จแล้วอย่าหยุดทันที ให้คูลดาวน์โดยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อทุกส่วนประมาณ 5-10 นาที เพื่อให้อุณหภูมิร่างกายค่อยๆ เย็นลงและกลับสู่สภาวะปกติ

3. ระวังเรื่องข้อเข่า ข้อต่อต่างๆ

ท่าเต้นบางท่าจะมีแรงกระแทกมาก ผู้ที่มีปัญหาเรื่องข้อต่ออยู่แล้วควรหลีกเลี่ยงท่าที่ต้องย่อ หรือหมุนบริเวณข้อต่อ ให้เหยียดและพับขึ้นพับลงแทน และที่สำคัญไม่ว่าจะมีปัญหาเรื่องข้อต่อมาก่อนหรือไม่ ต้องใช้รองเท้าผ้าใบที่รองรับการออกกำลังกายเพื่อลดแรงกระแทก

4. เวลาเหนื่อยอย่าดื่มน้ำทีเป็นขวด

เวลาร่างกายเหนื่อย ระบบย่อยอาหารจะหยุดทำงานชั่วคราว การดื่มน้ำทีละมากๆ จะทำให้เกิดอาการจุกเสียด ดังนั้นค่อยๆ จิบน้ำจะดีกว่า

5. อย่าดื่มกาแฟหรือชาก่อนเต้น

เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างชาหรือกาแฟจะกระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น เสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้

สิ่งสำคัญสำหรับการลดความอ้วนไม่ใช่การออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว แต่คือการคุมอาหารด้วย เพราะไม่อย่างนั้น การเต้นลดน้ำหนักทุกวันก็อาจไม่ช่วยอะไร เพียงทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น เหนื่อยช้าลง แต่ยังมีพุงและไขมันส่วนเกินอยู่เหมือนเดิมนั่นเอง

บทความแนะนำ …